หน้าแรกTrade insight > รัฐบาลกลางไนจีเรียเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหาร

รัฐบาลกลางไนจีเรียเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหาร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงด้านอาหารกล่าวผ่านการนำเสนอวิดีโอในงานประชุมความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานในแอฟริกาที่เมืองลากอสซึ่งจัดโดย White & Case LLP ร่วมกับธนาคารพัฒนาแอฟริกาและหน่วยงานการลงทุนอธิปไตยของไนจีเรียว่ารัฐบาลกลางกำลังแสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านการผลิตทางการเกษตรของประเทศเนื่องจากภาคเอกชนถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพด้านการเกษตรของไนจีเรียได้มากมาย ธุรกิจต่างๆ สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และการแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเข้าใจดีว่าการลงทุนในภาคเกษตรกรรมมีความเสี่ยงโดยธรรมชาติ และเพื่อแก้ไขปัญหานี้ รัฐบาลกลางมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยผ่านการปฏิรูปนโยบายและกลไกการลดความเสี่ยงจึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรด้านการพัฒนาและสถาบันการเงินเพื่อจัดหาการค้ำประกันสินเชื่อ แผนประกัน และโซลูชันทางการเงินแบบผสมผสานโดยมีเป้าหมายคือลดอุปสรรคในการเข้าร่วมและสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่มั่นคงซึ่งจะช่วยสนับสนุนความมุ่งมั่นในระยะยาวจากภาคเอกชน

ตามที่รัฐมนตรีกล่าว นักลงทุนสามารถสำรวจโอกาสในการใช้โซลูชันพลังงานหมุนเวียนสำหรับภาคเกษตรกรรม เช่น ระบบชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บถ่านหินซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาด้านพลังงานและความมั่นคงด้านอาหารได้จึงเรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล สถาบันพัฒนาและการเงิน พันธมิตรภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมมือกันด้วยจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างภาคการเกษตรที่มีความยืดหยุ่นและครอบคลุมเพื่อให้แน่ใจว่าชาวไนจีเรียสามารถเข้าถึงอาหารที่มีราคาถูกและมีคุณค่าทางโภชนาการได้

ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารพัฒนาแอฟริกา กล่าวว่าการบรรลุความมั่นคงด้านอาหารในไนจีเรียเป็นภารกิจอันล้ำค่าและต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่ด้วยความเชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้วยเนื่องจากไนจีเรียมีศักยภาพด้านการเกษตรมหาศาล โดยมีพื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 70.8 ล้านเฮกตาร์ ซึ่ง 34 ล้านเฮกตาร์จัดเป็นพื้นที่เพาะปลูกได้ ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้รับการพัฒนา นอกจากนี้ ภาคการเกษตรยังจ้างงานคนกว่า 25 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของกำลังแรงงานทั้งหมด ในขณะที่มีส่วนสนับสนุนเพียงร้อยละ 20 ของ GDP และภาคการเกษตรยังเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจที่มีศักยภาพที่จะผลักดันให้ไนจีเรียบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ดังนั้น การปลดล็อกศักยภาพจึงเป็นไปได้ผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ และกระบวนการเพิ่มมูลค่าที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น

ทั้งนี้ แอฟริกามีพื้นที่เพาะปลูก 60 เปอร์เซ็นต์ของโลก และภาคเกษตรกรรมจ้างงานประชากร 70 เปอร์เซ็นต์ของทวีปแต่แอฟริกามีส่วนสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตรของโลกเพียง 10 เปอร์เซ็นต์จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลและเลวร้ายมาก โดยเฉพาะไนจีเรียกำลังดิ้นรนกับราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นตามรายงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติราคาอาหารเพิ่มขึ้นเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม 2024 จาก 37.77 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก่อนหน้าโดยที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศพุ่งสูงขึ้นเป็น 33.9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคมฯ จาก 32.7 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนฯ เนื่องมาจากราคาอาหารที่สูง

อ่านข่าวฉบับเต็ม : รัฐบาลกลางไนจีเรียเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหาร

Login