รอบทิศเศรษฐกิจและการค้าของอิหร่าน

(1) อัตราเงินเฟ้ออิหร่านเดือนมิถุนายน 2566 ลดลง 0.6 %
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิหร่าน (Statistical Center of Iran: SCI) เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 12 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเดือนที่สามของเดือนปฏิทินอิหร่าน โดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 48.5 เปอร์เซ็นต์ ลดลง 0.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากตัวเลขสิบสองเดือนสิ้นสุดในเดือนที่สองของเดือนปฏิทินอิหร่าน
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กำหนดอัตราเงินเฟ้อแบบจุดต่อจุดของประเทศไว้ที่ร้อยละ 42.6 ในเดือนที่สาม (ปฏิทินอิหร่านปี 1402 ตรงกับเดือนมิถุนายน 2566) ซึ่งหมายความว่าประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 42.6 สำหรับการซื้อสินค้าและบริการแบบเดียวกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันกับปีก่อน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 12 เดือน สิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคม 2566 (ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดของปีปฏิทินอิหร่านที่ผ่านมา ปี 1401) อยู่ที่ร้อยละ 45.8 และอัตราเงินเฟ้อในช่วงสิบสองเดือนสิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคม 2565 (สิ้นปีปฏิทินอิหร่าน 1400) ไว้ที่ 40.2 เปอร์เซ็นต์ และของปีปฏิทินอิหร่าน 1399 ที่ 36.4 เปอร์เซ็นต์

(2) อิหร่านคาดว่าจะเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งได้ 440 ตันในจังหวัดยาซด์
ฝ่ายผลิตพืชการเกษตรของจังหวัดยาซด์เปิดเผยว่า การเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งธรรมชาติจาก 876,000 แหล่ง ในภูมิภาคต่างๆ ของจังหวัดได้เริ่มต้นและจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาสองเดือน ซึ่งคาดว่าจะเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งได้ 440 ตัน โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา กองทุนสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งได้มอบสิ่งอำนวยความสะดวกดอกเบี้ยต่ำจำนวน 170,000 ล้านเรียล (ประมาณ 440,760 ดอลลาร์) ให้กับผู้เลี้ยงผึ้งโดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งของประเทศ
จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) อิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำผึ้งรายใหญ่อันดับสามของโลก ทั้งนี้ ตามแผนพัฒนาแห่งชาติฉบับที่ 7 ของอิหร่านปริมาณการผลิตน้ำผึ้งควรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3 4 กิโลกรัมต่อรัง ตามความหลากหลายของพืชและพื้นที่ทุ่งหญ้าที่มีในประเทศ

(3) การค้าอิหร่าน จีน ช่วง 5 เดือนแรก มูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์
ตามตัวเลขล่าสุดที่เผยแพร่โดยกรมศุลกากรของจีน มูลค่ารวมของการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 6.47 พันล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกของอิหร่านไปยังจีนมีมูลค่ารวม 1.9 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 68% ในทางกลับกัน การส่งออกของจีนไปยังอิหร่านสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% น้ำมันดิบเป็นสินค้าที่สำคัญที่สุดที่จีนนำเข้าจากอิหร่าน แม้ว่ารัฐบาลจีนจะไม่ได้กล่าวถึงปริมาณการนำเข้าก็ตาม เนื่องจากส่วนใหญ่นำเข้าโดยผู้ซื้อเอกชน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบส่งผลกระทบต่อมูลค่าและปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของอิหร่านไปยังจีน การส่งออกของอิหร่านไปยังจีนลดลงอย่างมากในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของราคาน้ำมันระหว่างประเทศ ตามตัวเลขของศุลกากรอิหร่าน จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน อิหร่านส่งออกสินค้ามูลค่า 14.584 พันล้านดอลลาร์ไปยังจีนในปีปฏิทินอิหร่านจนถึงปลายเดือนมีนาคม 2566 ขณะที่การนำเข้าจากจีนสูงถึง 15.744 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

(4) อิหร่านและอัฟกานิสถานบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญระหว่างการเยือนอัฟกานิสถานของหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าของอิหร่าน (The Iranian Trade Promotion Organization: TPO) ได้มีการทำข้อตกลงที่สำคัญเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยการเดินทางเยือนอัฟกานิสถานของนาย Hamidreza Karbalaie Esmaili มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเพื่อนบ้าน ในด้านธุรกิจบริการทางเทคนิคและวิศวกรรม ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมอาหาร และอื่นๆ ทั้งนี้ ระหว่างการเยือน นาย Esmaili ได้พบและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการแพทย์ของอัฟกานิสถาน รวมถึงรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำหอการค้าและการลงทุน อธิบดีกรมศุลกากรอัฟกานิสถาน รองผู้อำนวยการและที่ปรึกษาอาวุโสประจำรัฐมนตรีการค้า กงสุลใหญ่อิหร่านประจำเฮรัต ผู้บัญชาการกองรักษาชายแดน และผู้อำนวยการกรมศุลกากรด็อกฮารูน
หลังจากการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ดังนี้
1. การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันหลายโครงการ
2. การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงพิเศษทางการค้าและขยายความร่วมมือด้านศุลกากร ทั้งสองฝ่ายได้เตรียมรายการสินค้าโภคภัณฑ์ 10 รายการสำหรับการดำเนินการระยะแรกของข้อตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า โดยจำนวนรายการจะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
3. การจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมร่วมที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยอิหร่านเป็นผู้จัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ส่วนด้านการลงทุนในเขตอุตสาหกรรมร่วม เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ
4. อัฟกานิสถานประกาศความพร้อมในการเปิดเส้นทางขนส่งจากปากีสถานไปยังจังหวัดโคราซาน ราซาวีของอิหร่าน ผ่านเส้นทาง Taftan-Chaman-Islam Qala-Mashhad ซึ่งจะลดเส้นทางระหว่างสองประเทศจาก 1,500 กิโลเมตร เหลือน้อยกว่า 1,000 กิโลเมตร กม.
5. ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในการที่อิหร่านจะรับนักศึกษาระดับแนวหน้าของอัฟกานิสถานไปศึกษาต่อด้านสาขาการแพทย์ และไม่ใช่การแพทย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของอิหร่าน รวมทั้งความร่วมมือเกี่ยวกับการฝึกอบรมเฉพาะทางของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของอัฟกานิสถาน โดยการส่งอาจารย์ชาวอิหร่านไปยังอัฟกานิสถาน

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)