เว็ปไซต์ Fitch Solutions เปิดเผยรายงานล่าสุด ชี้ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและของใช้ส่วนตัวในฮ่องกงมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.6 ในปี 2567 ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายรวมพุ่งแตะ 4.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.745 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง รายงานระบุว่า ตลาดนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2567 ถึง 2571 โดยได้แรงหนุนจากรายได้คงเหลือสำหรับใช้จ่าย (Disposable Income) ในระดับสูงทั้งจากผู้บริโภคในประเทศและชุมชนชาวต่างชาติ ปัจจัยสำคัญคือ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ ขณะที่ผู้ประกอบการนำเสนอสินค้าหลากหลายระดับราคา ครอบคลุมตั้งแต่ประหยัดถึงพรีเมียม
แม้แนวโน้มเป็นบวก แต่ยอดใช้จ่ายยังไม่ฟื้นเท่าระดับก่อนโควิด-19 (ปี 2562) ที่ 3.311 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง สะท้อนการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวครองส่วนแบ่งตลาดกว่าครึ่ง คาดมีมูลค่าสูงถึง 2.782 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปี 2567 ปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโตของตลาด ได้แก่ ความสนใจในรูปลักษณ์ภายนอกของผู้บริโภค ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ กระแสนิยมผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการขยายตัวของแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งเสริมเครือข่ายร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมและตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวฮ่องกงที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี
ด้านการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายในฮ่องกงมีทั้งผู้เล่นระดับโลกอย่าง Unilever และ Sephora รวมถึงยักษ์ใหญ่ท้องถิ่นอย่าง Sa Sa และ Chow Tai Fook
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดได้แก่ การลดลงของประชากรในภาพรวมและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคหลักอย่างคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่เป็นกำลังซื้อสำคัญของตลาดมีจำนวนน้อยลง ตามรายงานระบุว่า “กลุ่มนี้มีความต้องการสินค้าดูแลตัวเองสูงที่สุด เพราะให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ภายนอกอย่างมาก” นอกจากนี้ ธุรกิจในภาคส่วนนี้ยังต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวชาวจีน
แม้จะเผชิญความท้าทาย แต่คาดว่าเศรษฐกิจท้องถิ่นที่เติบโตและความต้องการแบรนด์หรูที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องจะช่วยหนุนให้ตลาดขยายตัวในระดับปานกลาง เมื่อการท่องเที่ยวในภูมิภาคฟื้นตัวหลังปี 2566 คาดว่าภาคส่วนนี้จะทยอยปรับตัวดีขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 4.9
คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 ยอดใช้จ่ายด้านการดูแลร่างกายในฮ่องกงจะมีมูลค่าสูงถึง 5.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.553 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง
ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
ปัจจุบันชาวฮ่องกงทั้งหญิงและชายตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานจะให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองและต้องการเสริมภาพลักษณ์ภายนอกให้ตนเองดูดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ Personal Care ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค มีความหลากหลายตามคุณสมบัติการใช้งาน สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีพฤติกรรมใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น มีความพิถีพิถันในการเลือกสรรค์ส่วนผสมหลักโดยการหลีกเลี่ยงสารเคมีให้มากที่สุด เมื่อสำรวจตลาดพบว่า กระแสนิยมผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในฮ่องกงนั้นน่าจับตามอง สำหรับประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมผลิตสินค้าเครื่องสำอางและ Personal care ที่ได้มาตรฐาน มีจุดเด่นคือมีนวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถนำส่วนผสมจากสมุนไพรซึ่งมีคุณสมบัติทดแทนสารเคมีบางชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการทั้งโรงงานผลิตและเจ้าของแบรนด์จะใช้กลยุทธ์ปรับตัวตามกระแสนิยม คิดค้นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งออกเข้าสู่ตลาดฮ่องกงและจีน
แหล่งข้อมูล: https://retailasia.com/news/personal-care-spending-in-hong-kong-reach-482b-in-2024#:~:text=The%20personal%20care%20and%20effects,a%20report%20by%20Fitch%20Solutions
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ยอดใช้จ่ายด้าน Personal Care ชาวฮ่องกงคาดว่าจะพุ่งแตะ 4.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567
