หน้าแรกTrade insight > ภาพรวมอุตสาหกรรมแฟชั่นสิงคโปร์ ปี 2025: แรงขับเคลื่อนจากคนรุ่นใหม่ และบทบาทของดิจิทัล

ภาพรวมอุตสาหกรรมแฟชั่นสิงคโปร์ ปี 2025: แรงขับเคลื่อนจากคนรุ่นใหม่ และบทบาทของดิจิทัล

การเติบโตของตลาดแฟชั่นในสิงคโปร์

อุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศสิงคโปร์ยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซเนอร์แบบ Ready-to-Wear ซึ่งมีมูลค่ารวมถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในอัตรา 4% ขณะเดียวกัน ภาพรวมของตลาดเสื้อผ้าและรองเท้าคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 4% ภายในปี 2026

การเติบโตดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากกระแสดิจิทัล โดยเฉพาะในภาคอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากแฟชั่นเกือบ 20% ของยอดขายออนไลน์ทั้งหมดในประเทศ อัตราการเข้าถึงของผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซอยู่ที่ 58.8% ในปี 2024 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 80% ภายในปี 2029 ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซ เช่น Instagram Shop, TikTok Shop และ ShopperBoard Collectives ที่สามารถเชื่อมโยงแรงบันดาลใจด้านแฟชั่นไปสู่การตัดสินใจซื้อได้อย่างไร้รอยต่อ

ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไซต์ต่างประเทศ โดยมีแรงจูงใจหลักคือ การมองหาข้อเสนอที่คุ้มค่ากว่า เข้าถึงสินค้าที่ไม่มีขายในประเทศ และค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ โดยจากรายงานพบว่า 56% ของผู้บริโภคต้องการราคาที่แข่งขันได้มากขึ้นจากต่างประเทศ ขณะที่ 45% ต้องการสินค้าที่ไม่มีจำหน่ายภายในประเทศ และอีก 37% สนใจผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน นอกจากนี้ รายงานของ PayPal ยังระบุว่า 78% ของผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซในสิงคโปร์เคยซื้อสินค้าจากต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของตลาดออนไลน์ในระดับโลก ทั้งนี้ สื่อสังคมออนไลน์ยังมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ โดยมีประชากรกว่า 79% ที่ใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง การวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพผ่านช่องทางดังกล่าวสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ถึง 20–40% ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมที่ดีระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ ความภักดีต่อสินค้า และการเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

การนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประสบการณ์การซื้อสินค้า

ผู้ประกอบการค้าปลีกจำนวนมากหันมาใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความจริงเสมือน (AR) เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ทั้งในด้านการประเมินขนาดเสื้อผ้าที่เหมาะสมและการทดลองสวมใส่เสมือนจริง ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ที่มีความคุ้นชินกับเทคโนโลยีเป็นอย่างดี

พฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม

 Gen Z ซึ่งมีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี มีแนวโน้มชื่นชอบแฟชั่นที่ไม่แบ่งแยกเพศและการผสมผสานระหว่างเสื้อผ้ามือสองกับสตรีทแวร์เอเชีย โดยกลุ่มนี้ใช้เวลาเฉลี่ยมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันบนโซเชียลมีเดีย และมากกว่า 38% เคยสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบไลฟ์สตรีมมิ่ง พร้อมให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน

Millennials หรือผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 30 ถึง 44 ปี เน้นการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดีมากกว่าปริมาณ และนิยมใช้บริการเช่าเสื้อผ้า อีกทั้งยังชื่นชอบการช้อปปิ้งแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์

Gen X และ Baby Boomers ยังคงให้ความสำคัญกับการจับจ่ายในห้างสรรพสินค้า แต่ก็เริ่มมีการใช้งานตลาดรีเซลออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมที่มีระบบรับรองและตรวจสอบสินค้า

แนวโน้มแฟชั่นที่มาแรงในปัจจุบัน

กระแส “Quiet Luxury” หรือความหรูหราอย่างเรียบง่าย กำลังเป็นเทรนด์แฟชั่นที่ได้รับความนิยม ควบคู่ไปกับเสื้อผ้าแนวไม่จำกัดเพศ และเสื้อผ้าแนวสปอร์ต หรือ ชุดกีฬาลำลอง (Athleisure) ในขณะเดียวกัน ตลาดแฟชั่นเฉพาะกลุ่มก็เริ่มขยายตัวมากขึ้น เช่น เสื้อผ้าสำหรับผู้ที่ต้องการความมิดชิด (Modest Wear) เสื้อผ้าแนวเทคโนโลยี (Techwear) และสตรีทแฟชั่น โดยแพลตฟอร์มอย่าง ShopperBoard มีบทบาทในการนำเสนอสินค้าเหล่านี้สู่ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การคาดการณ์ตลาดและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

การคาดการณ์ในอนาคตระบุว่า รายได้จากตลาดแฟชั่นออนไลน์ในปี 2024 มีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเป็นสามเท่าภายในปี 2032 ปัจจัยหลักที่ช่วยเร่งการขยายตัวของตลาด ได้แก่ การพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยี AI และ AR ที่สนับสนุนการซื้อสินค้าเฉพาะบุคคลอย่างแม่นยำ ตลอดจนแนวโน้มของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน บริบททางสังคม และความยืดหยุ่นของช่องทางการจับจ่าย สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นสิงคโปร์มีความพร้อมในการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และมุ่งเน้นความต้องการของผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะ

จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดแฟชั่นในสิงคโปร์ โดยเฉพาะในช่องทางอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการไทยควรเร่งปรับตัวและวางกลยุทธ์การเข้าถึงตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งให้ความสำคัญกับประสบการณ์แบบดิจิทัล ความยั่งยืน ความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน และความหลากหลายทางเพศในสินค้าแฟชั่น

ผู้ประกอบการควรมุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์โดยมี จุดขายเฉพาะตัว เช่น การใช้วัสดุธรรมชาติ การออกแบบร่วมสมัยผสมผสานกลิ่นอายไทย และความโปร่งใสด้านการผลิต ควบคู่กับการขอรับรองมาตรฐานสากล เช่น BSCI, OEKO-TEX หรือ ISO 14001 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในตลาดสิงคโปร์ ซึ่งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและจริยธรรมในการผลิตสินค้าอย่างมาก

แหล่งที่มาข้อมูล/ภาพ : https://shopperboard.com/blog/singapore-fashion-landscape-and-fashion-market-at-a-glance

https://www.oom.com.sg/ecommerce-statistics-singapore/

https://www.dhl.com/discover/en-sg/e-commerce-advice/e-commerce-trends/amazon-singapore-trends-2025

 

 

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ภาพรวมอุตสาหกรรมแฟชั่นสิงคโปร์ ปี 2025: แรงขับเคลื่อนจากคนรุ่นใหม่ และบทบาทของดิจิทัล

บทความที่เกี่ยวข้อง

Login