รายงานยอดขายล่าสุดของบริษัทผู้ค้าปลีกสหรัฐฯหลายรายแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐฯลดการซื้อสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีราคาแพง (big item tickets) เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และ เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายจากสถานการณ์ อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ อัตราเงินเฟ้อยังคงสูง ทำให้สินค้ามีราคาเพิ่มสูงขึ้น และผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้เงินซื้อสินค้าบริการมากกว่าซื้อสินค้าอื่นๆ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ความตกต่ำของยอดขายสินค้าที่มีราคาแพงมาก่อนหน้าแล้ว แต่ความตกต่ำนี้ยังคงสร้างความวิตกกังวลต่อภาคธุรกิจค้าปลีกสหรัฐฯ
ผู้บริหาร Home Depot’s ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่สินค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนระบุว่า สินค้าราคาแพง – big item tickets ที่มีราคาเกินกว่าหนึ่งพันเหรียญฯมียอดขายลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 5.5 ผู้บริหาร Big Lots ร้านค้าปลีกประเภท deep discount ขายสินค้าของใช้ในบ้านระบุว่า ผู้บริโภคหลักของร้านเป็นคนรายได้ต่ำกำลังได้รับแรงกดดันทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ที่ไปจำกัดความสามารถในการใช้เงินและทำให้ต้องลดการซื้อสินค้าราคาแพง เช่น เฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้นอกบ้าน (outdoor furniture) ผู้บริหาร Best Buy ธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนระบุว่า ยอดขายในปีนี้ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 16.1 และในวันที่ 15 กันยายน 2023 Institute for Supply Management ระบุข้อมูลสถานการณ์การผลิตสินค้าในสหรัฐฯในเดือนสิงหาคม 2023 ว่า การผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง และสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนและชิ้นส่วนประกอบ แสดงการลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของ U.S. Bureau of Labor Statistics แสดงราคาสินค้า furnishings และ supplies ในเดือนกรกฎาคมว่า ลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.4 ราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนลดลงร้อยละ 0.6 เนื่องมาจากผู้ค้าสินค้า (vendors) จำนวนมากให้การสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อช่วยร้านค้าปลีกให้สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น การค้าสินค้าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน การลดราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนสามารถทำได้ง่ายกว่าการลดราคาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เพราะส่วนใหญ่ของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่มีต้นทุนที่ถูกกว่า ขณะที่สินค้าเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม โซฟาและชุดเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับประทานอาหาร จะผลิตในสหรัฐฯด้วยเหตุผลหลักเรื่องโลจิสติกส์ ทำให้เป็นสินค้าที่มีโครงสร้างราคาที่สูงกว่า จึงเป็นสินค้าที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคสหรัฐฯมากกว่า บริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์และผู้ค้าปลีกหลายรายในสหรัฐฯกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องปิดกิจการหรือยื่นขอล้มละลาย
ขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์และภาคธุรกิจการค้าสหรัฐฯกำลังเฝ้าจับตามองพฤติกรรมและสภาวะเศรษฐกิจของผู้บริโภคสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะดำเนินไปในทางใดและกินเวลานานเพียงใด
ที่มา: yahoo!finance: “Shoppers pull back on ‘big ticket’ items as furniture, appliance sales lag, by Ines Ferre, September 4, 2023
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น สคต ลอสแอนเจลิส
1. การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐฯมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะมีส่วนแบ่งมากกว่าสองในสามของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ รายงานล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2023 ระบุว่า การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐฯในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 สูงถึง14,419.86 พันล้านเหรียญฯ การใช้จ่ายในเดือนกรกฏาคม 2023 ยังคงแสดงการเติบโตแต่ในอัตราต่ำที่ร้อยละ 0.6 วงเงินใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอัตราเงินเฟ้อ และการใช้เงินล่วงหน้า (การใช้เครดิตการ์ด) อย่างไรก็ดี แสดงว่าผู้บริโภคสหรัฐฯยังคงมีความสำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
2. ธุรกิจค้าปลีกที่มีสินค้า big ticket items วางจำหน่ายและกำลังทำรายได้ในปัจจุบันคือ ธุรกิจค้าปลีกกลุ่ม discount retailers เช่น Walmart, Amazon TJ Maxx และ IKEA (รายงานการเงินล่าสุดระบุยอดขายในสหรัฐที่ 6 พันล้านเหรียญฯ) อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคกำลังมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการใช้จ่ายเงิน
3. การลดการซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของผู้บริโภคสหรัฐฯอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่ม big items tickets ของไทยบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ที่การผลิตเกือบทั้งสิ้นเป็นธุรกิจของคนไทย อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตที่ส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดค้าปลีกลุ่ม discount stores ยังคงมีโอกาสเติบโตได้ และคาดการณ์ว่าเมื่อสภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯลดระดับเข้าสู่ระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐฯตั้งเป้าไว้ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2024 สถานการณ์การค้าสินค้า big ticket items สหรัฐฯจะฟื้นตัวอีกครั้ง
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส
หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทำและนำเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นำมารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)