หน้าแรกTrade insightเครื่องดื่ม > ผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาสนใจและต้องการอาหารประเภท Street Food จากชาติต่างๆทั่วโลก (ข่าวประจำสัปดาห์ 23 – 27 ตุลาคม 2566)

ผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาสนใจและต้องการอาหารประเภท Street Food จากชาติต่างๆทั่วโลก (ข่าวประจำสัปดาห์ 23 – 27 ตุลาคม 2566)

การวิจัยตลาด street food โดยบริษัท Datassential พบว่า ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ตลาดสหรัฐฯมีการเติบโตต่อเนื่องของความสนใจและความต้องการอาหารประเภท street-food ทั้งในหมู่ผู้บริโภคทั่วไปและในธุรกิจให้บริการอาหาร ที่พบว่าปัจจุบันร้อยละ 9.3 ของรายการอาหารในร้านอาหาร มีคำว่า “street food” ปรากฎอยู่ เป็นการเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจากเมื่อสิบปีก่อนหน้า บริษัท Datassential คาดการณ์ว่าการเสนอรายการอาหารที่เป็น street food จะเพิ่มเป็นร้อยละ 11.2 ภายในปี 2026

 

“Street foods” หมายถึงอาหารประเภท ready-to-eat ที่ปกติจะมีวางจำหน่ายในที่สาธารณะ เช่น ตามท้องถนน ตลาด หรือในงานแฟร์ต่างๆ ในประเทศต่างๆทั่วโลก

 

The Institute of Food Technologists (IFT) ระบุเช่นเดียวกันว่า ในระยะ 5 – 7 ปีที่ผ่านมา ความนิยมอาหารประเภท street food เติบโตมาโดยตลอด และกลายเป็นสิ่งดึงดูดใจผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ๆในการบริโภคอาหาร สอดคล้องกับการสำรวจของ Datassenteial ที่พบว่าร้อยละ 49 ของผู้บริโภคที่ถูกสำรวจระบุว่า มีความสนใจและต้องการบริโภคอาหารประเภท street food

 

ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ในตลาดสหรัฐฯ เช่น Kraft Heinz, Kellogg’s และ PepsiCo และ startups หลายรายหันมาผลิตสินค้าอาหารที่โฆษณาว่าเป็น “street food” ออกวางจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดย Kraft Heinz วางตลาดแบรนด์ Delimex ที่เป็นอาหารเม็กซิกันแช่เยือกแข็ง โดยโฆษณาว่าเป็นการ “นำอาหาร street food ของเม็กซิกันเข้าสู่ main street อเมริกา” และบริษัท Kellogg’s วางตลาดสินค้าแบรนด์ Vanilla Bean Grab & Go Waffle ที่บริษัทฯอ้างว่าเป็น street food จากเบลเยี่ยม

 

ในความเห็นของเจ้าของ start-up สองรายคือ บริษัท MiLa Food (MìLà แปลว่า street food avenue) ผู้ผลิตอาหารเอเซีย และ SOMOS Foods ผู้ผลิตอาหารเม็กซิกัน ระบุว่า บริโภคสหรัฐฯมีความคุ้นเคยกับการบริโภคอาหารชาติต่างๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นอาหารรสชาติแปลกใหม่น่าสนใจ ความคุ้นเคยนี้ได้นำไปสู่การเติบโตของความพร้อมและความต้องการที่จะบริโภคอาหารกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆที่มีรสชาติเหมือนของดั้งเดิมมากที่สุด (most authentic) เท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ผู้บริโภคยังเชื่อมโยงคำว่า “street foods” เข้ากับคำว่า “convenience” นักธุรกิจทั้งสองรายเชื่อว่า ตลาดอาหารประเภท street food กำลังมีโอกาสดีที่สุดในปัจจุบัน

 

ที่มา: U.S. Chamber of Commerce: “How Companies Are Monetizing Consumer Demand for Street Food From Around the World”, by Mark Hamstra, September 11, 2023

 

ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของ สคต ลอสแอนเจลิส
กระแสความนิยมอาหารประเภท Street food กำลังมาแรงมากในสหรัฐฯ เห็นได้จากสินค้าที่โฆษณาว่าเป็น “street food” หลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นอาหารพร้อมรับประทานที่เป็นสินค้าแช่เยือกแข็ง ซ๊อส เครื่องดื่ม และ อาหารประเภทขบเคี้ยว มีปรากฎเพิ่มขึ้นในซุปเปอร์มาร์เก็ตกลุ่ม main stream เช่น Walmart, Target และ Wholefoods

 

สคต ลอสแอนเจลิสมีความเห็นว่า สินค้าอาหารและเครื่องดื่มประเภท “street” มีศักยภาพในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจาก

 

1. การใช้คำว่า “street” บนฉลากสินค้าที่แพร่หลายในปัจจุบันเป็นกลยุทธการตลาดในการสร้างความสนใจและความแปลกแยกออกจากคู่แข่งอื่นๆให้แก่สินค้าว่า เป็นอาหารเฉพาะของแต่ละชาติพันธุ์อย่างแท้จริง โดยไม่มีการดัดแปลงใดๆของรสชาติและวิธีการปรุงแต่ง และเป็นอาหารแบบบ้านๆที่มีกระบวนการผลิตง่ายๆตามธรรมชาติ ไม่ซับซ้อนยาวนานหรือมีการผสมผสานสารเคมีแปลกๆเหมือนสินค้าที่ผลิตในโรงงานผลิต ที่ผู้บริโภคสหรัฐฯจำนวนมากมีทัศนคติว่าเป็นอาหารที่ไม่เป็นธรรมชาติและเป็นอันตรายต่อการบริโภค

 

2. ประเทศสหรัฐฯประกอบไปด้วยพลเมืองหลากหลายชาติพันธุ์ การยอมรับความแตกต่างของชาติพันธุ์ต่างๆอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในหมู่ประชากรหนุ่มสาวที่ปัจจุบันมีจำนวนประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรสหรัฐฯและมีแนวโน้มการเติบโตของประชากรต่อเนื่องที่จะกลายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงสุด โดยเฉพาะกลุ่ม millennial (ประมาณ 73 ล้านคน) และ Gen Z (ประมาณ 71 ล้านคน) ที่มีพฤติกรรมนิยมเปิดรับความแตกต่างของชาติพันธุ์และวัฒนธรรมของเพื่อนร่วมชาติมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องอาหารชาติพันธุ์ต่างๆ ต้องการแสวงหาความแปลกใหม่ มีพฤติกรรมการซื้อหาสินค้าในลักษณะ “สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ” และต้องการความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต รวมถึงการปรุงแต่งและเตรียมอาหารเพื่อบริโภค

 

3. ปัจจุบันมีบริษัทผลิตอาหารในสหรัฐฯหลายรายใช้กลยุทธการตลาด “street food” ในการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายประเภทของหลากหลายชาติพันธุ์ การลงทุนเข้าสู่ตลาด street food ของผู้ผลิตรายใหญ่เหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงการเห็นโอกาสของตลาดที่แสดงการเติบโตต่อเนื่อง

 

4. อาหารเอเซียโดยเฉพาะอาหารไทยได้รับความนิยมสูงในสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่า

(1) หนึ่งในสี่ของร้านอาหารในสหรัฐฯให้บริการอาหารเอเซีย และอาหารหลักที่ร้านอาหารเอเซียส่วนใหญ่นำเสนอจะมาจากสองชาติคือจีนและไทยเป็นสำคัญ

 

(2) ร้านอาหารไทยในสหรัฐฯมีเป็นจำนวนมากและแพร่หลายไปทั่วประเทศในลักษณะที่ไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนต่อคนของประชากรสหรัฐฯเชื้อชาติไทย แสดงให้เห็นว่าอาหารไทยได้รับความนิยมสูงมากจากผู้บริโภคสหรัฐฯกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ

 

(3) การที่ประเทศไทยได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับหนึ่งของโลกและชื่อเสียงของ street food ในประเทศไทยที่ได้รับการกล่าวขวัญกันทั่วไป

 

จากเหตุผลดังกล่าวแล้วข้างต้น สคต ลอสแอนเจลิสมีความเห็นว่า ผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไทยควรจะให้ความสนใจต่อกลยุทธ์การตลาด “street food” และแสวงหาโอกาสที่จะผลิตและส่งสินค้า street food แบบไทยๆเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯมากยิ่งขึ้นในขณะที่ตลาดกำลังมีความต้องการและผู้ผลิตชาติอื่นๆกำลังใช้ประโยชน์จากความนิยมอาหารไทยในสหรัฐฯ

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส | ตุลาคม 2566 

หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทำและนำเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นำมารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login