ประธานสหภาพธัญพืชของอิหร่าน Mr. Kaveh Zargaran กล่าวว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้าอิหร่านอาจเผชิญกับปัญหาผลผลิตธัญพืชลดลง เนื่องจากไม่มีฝนตกทั่วประเทศ และมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาธัญพืชทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นหลังจากการที่รัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงธัญพืชของยูเครน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่อนุญาตให้ประเทศยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำ ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าธัญพืชของอิหร่านด้วย
ตามรายงานของทางการ ปี 1401 (21 มีนาคม 2565 -20 มีนาคม 2566) อิหร่านนำเข้าธัญพืชประมาณ 16.7 ล้านตัน โดยการบริโภคธัญพืชของประเทศอิหร่านในปี 1401 อยู่ที่ประมาณ 32 ล้านตัน ในขณะที่อีก 5 ล้านตัน ถูกเก็บไว้ในคลังสำรองพิเศษ โดยรวมแล้ว มีการจัดหาธัญพืชเกือบ 37 ล้านตันในปีที่แล้ว โดย 20.8 ล้านตันมาจากการผลิตในประเทศ และ 16.7 ล้านตันมาจากการนำเข้า
ทั้งนี้ พื้นที่กว่า 8.66 ล้านเฮกตาร์ของอิหร่านใช้ในการเพาะปลูกธัญพืช โดย 5 ล้านเฮกตาร์ปลูกด้วยการรอน้ำฝน ในความเป็นจริง การผลิตธัญพืชส่วนใหญ่ของประเทศขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนในประเทศ และเนื่องจากการลดลงของปริมาณน้ำฝนเมื่อเทียบกับระยะเวลาระยะยาว จึงมีความเป็นไปได้ที่ปริมาณการผลิตธัญพืชชองอิหร่านจะลดลง MR. Zargaran ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าจากสถิติล่าสุดกว่าร้อยละ 50 ของภูมิภาคทั่วประเทศกำลังประสบกับปัญหาภัยแล้ง ส่งผลเสียต่อปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรต่าง ๆ โดยเฉพาะธัญพืช
ที่มา https://www.tehrantimes.com/news/487009/Iran-could-face-decline-in-grain-production-dueto-drought
ความเห็นสำนักงาน
จากสถานการณ์ภัยแล้งของอิหร่าน ส่งผลให้ผลผลิตธัญพืชชองอิหร่านมีแนวโน้มลดลงซึ่งรวมถึงผลผลิตข้าวด้วยประกอบกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน กระทบต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทะเลดำ ดังนั้น สินค้าธัญพืชในตลาดโลกจึงมีแนวโน้มขาดแคลน ความต้องการสูง และราคาสูงเพิ่มขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ทีอิหร่านอาจหาแหล่งธัญพืชอื่น เช่น ข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี เป็นต้น
จากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะข้าวจากภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้