ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา แห่งแอฟริกาใต้ ได้ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ในช่วงที่เข้าร่วมประชุมความร่วมมือระหว่างแอฟริกา – จีน (Forum on Africa-China Cooperation :FOCAC) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงปักกิ่ง โดยประธานาธิบดีรามาโฟซา กล่าวว่า 8 ความตกลงซึ่งแอฟริกาใต้และจีนได้ลงนามในช่วงการเยือนจีนครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มและปรับปรุงการค้าระหว่างแอฟริกาใต้กับจีน ซึ่งช่วยสร้างความสมดุลการค้าระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน จีนคือคู่ค้าอันดับ 1 ของแอฟริกาใต้ แต่แอฟริกาใต้ยังคงขาดดุลการค้ากับจีนอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากแอฟริกาใต้ส่งออกวัตถุดิบ(อาทิ แร่ธาตุ สินค้าเกษตร) ไปจีน ในขณะที่นำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมซึ่งมีมูลค่าสูงจากจีน
หนึ่งในความตกลงที่แอฟริกาใต้ได้ลงนามร่วมกับจีน คือ การส่งออกเนื้อวัวไปจีน ขณะนี้ จีนห้ามนำเข้าเนื้อวัวทั้งหมดจากแอฟริกาใต้เนื่องจากการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย แต่ภายใต้ข้อตกลงใหม่จีนตกลงว่า จะห้ามนำเข้าเนื้อวัวเฉพาะในพื้นที่ที่เกิดโรคระบาดท่านั้น ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกเนื้อวัวจากแอฟริกาใต้ไปจีน นอกจากนี้ ยังมีความตกลงอื่นๆที่จะช่วยเพิ่มความร่วมมือกับจีนในด้านต่างๆ อาทิ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ความมั่นคงด้านพลังงาน
สำหรับประชุมความร่วมมือระหวางแอฟริกา – จีน (Forum on Africa-China Cooperation:FOCAC) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ให้คำมั่นว่า จีนจะให้ความช่วยเหลือประเทศในทวีปแอฟริกา ด้วยเงินทุนเกือบ 51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 ปี โดยจะสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมและจะสร้างงานอย่างน้อย 1 ล้านตำแหน่ง
ประธานาธิบดีรามาโฟซา ให้ความเห็นว่า ไม่ได้มองว่าจีนให้กู้เงินเพื่อวัตถุประสงค์ของการเข้าสู่กับดักหนี้ และไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับทวีปแอฟริกาเป็นการกดขี่ หรือ อาณานิคมใหม่ แต่ควรมองว่า เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรามาโฟซา ได้สร้างความมั่นใจให้แก่จีนว่า รัฐบาลแอฟริกาใต้จะไม่เป็นเบี่ยงไปจากนโยบายจีนเดียว
สำหรับการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีรามาโฟซาในครั้งนี้ ได้มีโอกาสพบนักธุรกิจจีน ซึ่งบางรายได้ที่ลงทุนในแอฟริกาใต้แล้ว โดยประธานาธิบดีราโฟซาให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหาคอขวดเกี่ยววีซ่าสำหรับ นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจีน นอกจากนี้ ยังมีคณะนักธุรกิจแอฟริกาใต้ได้ร่วมเดินทางไปจีนด้วย ซึ่งนักธุรกิจกลุ่มนี้ (ส่วนใหญ่ได้ลงทุนในจีนแล้ว) รู้สึกยินดีกับความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างจีนกับแอฟริกาใต้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรามาโฟซา เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับ BYD (แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน)ซึ่งแสดงความสนใจที่จะไปลงทุนในแอฟริกาใต้ และยังมีบริษัทอื่นๆด้านพลังงานหมุนเวียนที่ประสงค์จะลงทุนในแอฟริกาใต้
ข้อมูลเพิ่มเติมและความเห็นของสำนักงานฯ: การประชุมความร่วมมือระหว่างแอฟริกา – จีน (Forum on Africa-China Cooperation :FOCAC) ก่อตั้งเมื่อปี 2543 เป็นกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปแอฟริกากับจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก โดยปกติมีกำหนดจัดประชุมทุก 3 ปี ปัจจุบัน 53 ประเทศในทวีปแอฟริกา (ยกเว้น เอสวาตินี) ได้เป็นสมาชิก FOCAC สำหรับปีนี้ FACAC ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 โดยจีนจะให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในทวีปแอฟริกาภายใต้แผนปฏิบัติการปักกิ่ง ปี 2568 – 2570 (Beijing Action Plan for 2025-2027) ด้วยเงินทุนเกือบ 51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กรอบความร่วมมือในการช่วยเหลือจากจีน อาทิ การค้า สุขภาพ การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน พลังงานสะอาด ความมั่นคง โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งความช่วยเหลือดังกล่าวของจีนต่อทวีปแอฟริกา จะเป็นพลังสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สันติภาพ และความมั่นคงให้แก่ทวีปแอฟริกา อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์ว่า ความร่วมมือนี้อาจกลายเป็นดาบสองคม
ที่มาข่าว/เครดิตภาพ : www.dailymaverick.co.za
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย
กันยายน 2567
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เยือนจีน เพิ่มโอกาสทางการค้า