บริษัทไฮเทคในอิสราเอลปลดพนักงาน

สำนักงานสถิติกลาง (Central Bureau of Statistics) รายงานว่า มีบริษัทภาคบริการไฮเทคในอิสราเอล คิดเป็นสัดส่วน 52% ของทั้งหมดในอิสราเอล ได้ลดจำนวนพนักงานลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งจำนวนบริษัทที่ปลดพนักงานได้เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของปี 2565

แม้แต่บริษัททั่วไปที่ไม่ใช่ภาคบริการไฮเทคโนโลยียังลดจำนวนพนักงานลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 คิดเป็น 21% ของทั้งหมด เทียบกับ 11% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตลาดจ้างงานโดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีมีตัวเลขจ้างงานน้อยลง

33% ของผู้จัดการบริษัทในอุตสาหกรรมบริการไฮเทครายงานว่าสถานะทางเศรษฐกิจของบริษัทของตนไม่มีความเสียหายในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และสัดส่วน 54% ในอุตสาหกรรมบริการที่ไม่ใช่เทคโนโลยีก็กล่าวว่าไม่มีความเสียหายต่อบริษัทของตนเช่นกัน

36% ของบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีขั้นสูงรายงานว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาให้บริการลดลง อาจเป็นเพราะอุปสงค์ทั่วโลกลดลง บวกกับแผชิญกับอัตราเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีผลให้การเพิ่มทุนใหม่ทำได้ยาก จึงทำให้ 20% ของบริษัทไฮเทครายงานความเสียหายทางการเงินเนื่องจากความยากลำบากในการเพิ่มทุน

สำนักงานสถิติกลางได้เผยแพร่รายงานในเดือนมิถุนายน 2566 ว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างสำหรับโปรแกรมเมอร์ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และอยู่ที่ 5,872 ตำแหน่งโดยเฉลี่ยตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2566 เทียบกับ 6,035 ตำแหน่งโดยเฉลี่ยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ในช่วงที่มีความต้องการโปรแกรมเมอร์สูงสุด ระหว่างเดือนธันวาคม 2564 ถึงกุมภาพันธ์ 2565 มีตำแหน่งงานว่างโปรแกรมเมอร์ไม่ต่ำกว่า 14,239 ตำแหน่ง

ในบรรดาบริษัทไฮเทคที่ลดพนักงาน เช่น บริษัทซอฟต์แวร์ Amdocs จะเลิกจ้างพนักงานหลายพันคนจากที่จ้างอยู่ 32,000 คนทั่วโลก อ้างอิงจากแหล่งข่าวในตลาด Amdocsว่าจ้างพนักงานประมาณ 5,000 คนในอิสราเอล โดยในจำนวนนี้จะมีพนักงานประมาณ 200 คน ซึ่งคิดเป็น 4% เป็นชาวอิสราเอล

Amdocs กล่าวว่า ตนเองก็อยุ่ในภาวะเช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอื่น ๆ เมื่อมองสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกทุกวันนี้ ก็ต้องดำเนินธุรกิจตามความเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าการเติบโตจะดำเนินต่อไป ดังนั้น เราจึงต้องการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวในขณะที่ยังคงลงทุนได้ต่อไปในพื้นที่การเติบโตตามแผนกลยุทธ์ของเรา การปลดพนักงานของบริษัทเป็นรอบที่สองในปี 2566 นี้ ในเดือนมกราคม 2566 บริษัทประกาศว่าจะปลดพนักงาน 700 คน โดย 100 คน อยู่ในอิสราเอลคิดเป็น 2.3% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด Amdocs ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ดำเนินการปลดพนักงาน 2 รอบภายในเวลาอันสั้น แม้ว่ารายได้และผลกำไรของบริษัทกำลังเติบโต และราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์

ความท้าทายของเศรษฐกิจมหภาค ความยากลำบากในการระดมเงินใหม่ในตลาดสาธารณะ และการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย นำไปสู่การปลดพนักงานจำนวนมากในบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งตั้งแต่ปีที่แล้ว บางบริษัทที่ต้องปลดพนักงานรอบที่สองภายในเวลาไม่กี่เดือนนับจากรอบแรก ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มงวดอาจบ่งบอกว่าผู้บริหารของบริษัทไม่ได้วางแผนอย่างเพียงพอในรอบแรก และเหตุการณ์ที่อาจถูกมองว่าไม่ดีจากทั้งสองฝ่าย ได้แก่ นักลงทุนและพนักงาน ในบรรดาบริษัทเทคโนโลยีของอิสราเอลที่ดำเนินการปลดพนักงาน 2 รอบ ได้แก่ บริษัทโซลูชันวิดีโอ Kaltura ( Nasdaq : KLTR) Internet analytics company Similarweb (NYSE: SMWB) บริษัท เทคโนโลยี  Otonomo (Nasdaq: OTMO) และบริษัทแนะนำเนื้อหาอินเทอร์เน็ต Outbrain และแม้แต่บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Meta และ Amazon ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการลดขนาดลงได้ และดำเนินการปลดพนักงานมากกว่าหนึ่งรอบ

ที่มา : globes.co.il

timeofisrael.com

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

IMF คาดว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ของอิสราเอลจะลดลงเหลือ 2.5 % ในปี 2566 เมื่อเทียบกับ 6.5% ในปี 2565 เนื่องจากหลายสาเหตุปัจจัย เช่น อัตราเงินเฟ้อสูงถึง 5% การเดินขบวนประท้วงรัฐบาลของประชาชนหลายพันคน ค่าเงินเชคเกลอ่อนค่าลง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เป็นต้น นักวิเคราะห์ออกมากล่าวต่อต้านการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาล ในขณะที่บุคคลระดับสูงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของอิสราเอลก็มีส่วนอย่างมากในการเคลื่อนไหวประท้วงครั้งนี้ด้วย

——————————————–

สคต.เทลอาวีฟ

11 ก.ค.66

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)