หน้าแรกTrade insight > บริษัทเวชภัณฑ์กัญชาของเยอรมนีเตรียมเข้าตลาดหุ้น

บริษัทเวชภัณฑ์กัญชาของเยอรมนีเตรียมเข้าตลาดหุ้น

บริษัท Cannamedical Pharma ผู้จำหน่ายกัญชาทางการแพทย์มียอดขายมากขึ้นเป็นเท่าตัว ภายหลังจากที่รัฐบาลเยอรมันออกมาประกาศให้กัญชาถูกต้องทางกฎหมาย ด้านนาย David Henn ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ว่า “ยอดขายของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทันทีที่รัฐบาลเยอรมันทำให้กัญชาถูกต้องตามกฎหมาย ในปีหน้า โดยจะทำให้สามารถผู้บริโภคสามารถซื้อเวชภัณฑ์ยาที่ทำมาจากกัญชาเพื่อรักษาอาการปวดได้ง่ายขึ้น” ซึ่งบริษัทฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2024 ยอดขายของบริษัทฯ จะขยายขึ้น 7 – 10 เท่าเทียบกับยอดขายในปัจจุบัน (ประมาณ 250 ล้านยูโร) และตอนนี้ บริษัทฯ กำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้นเพื่อระดมทุนในการขยายกิจการของบริษัทฯ ต่อไป นาย Henn ยังได้เปิดเผยอีกว่า “ในปี 2024 จะเป็นปีที่เราจะเริ่มเสนอขายหุ้น IPO แต่ถ้าไม่ทัน เราก็จะเข้าตลาดหุ้นในปี 2025 แทน” ปัจจุบันบริษัทฯ ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% ของเวชภัณฑ์ยาจากกัญชา และจะจำหน่ายสินค้าในยี่ห้อ Cannamedical ได้ 7 ปีโดยประมาณ

ในเดือนสิงหาคม 2023 รัฐบาลเยอรมันได้ออกกฎหมายที่อนุญาตให้ครอบครองกัญชาเพื่อการเสพได้ในปริมาณหนึ่ง และวางแผนที่จะอนุญาตให้สามารถจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาผ่านใบสั่งของแพทย์ทั่วไปได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีแพทย์เพียงจำนวนน้อยมากที่สามารถสั่งยาดังกล่าวได้ ซึ่งหากถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง รัฐบาลจะมีค่าใช่จ่ายลดลงเป็นพันล้านยูโรและเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาจะเป็นสินค้าที่น่าสนใจมากขึ้นในทันที จากข้อมูลของประเทศแคนนาดาซึ่งเป็นผู้นำด้านการเปิดเสรีกัญชาปรากฏว่า มีประชากรประมาณ 2% ที่ใช้เวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชา และหากนำมาพิจารณาเทียบกับประชากรของเยอรมันในปัจจุบัน จะพบว่า จำนวนคนไข้ที่ใช้เวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาจะเพิ่มขึ้นจาก 250,000 – 400,000 คน (ในปัจจุบัน) ไปเป็น 1.6 ล้านคน ในทันที ในปีที่ผ่านมาบริษัทประกันสุขภาพแห่งรัฐได้คืนเงินค่าเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาให้กับร้านขายยาสูงถึง 200 ล้านยูโร ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมผู้ประกันตนกับเอกชน หรือผู้ที่ชำระค่ายาเอง ด้านบริษัท Statista คาดการณ์ว่า ในปี 2023 ตลาดเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาน่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านยูโร ในขณะที่ตลาดมืดของสินค้ากัญชาต่าง ๆ เพื่อนำมารักษา หรือเพื่อใช้เชิงสันธนาการนั้น น่าจะสูงกว่าตลาดเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาหลายเท่าตัว

บริษัท Cannamedical Pharma เป็นบริษัทในเครือ Semdor-Gruppe ที่ก่อตั้งโดยนาย David Henn ซึ่งภายใต้การบริหารงานของ Semdor-Gruppe มีอีกหนึ่งบริษัท คือ PS Pharma ที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ เพราะบริษัทนี้ดูแลเรื่องบรรจุภัณฑ์และการสกัดสารต่าง ๆ และดูแลการขายยาในตลาดออนไลน์ (ในนามของบริษัท Online Cannalivery) ซึ่งบริษัทฯ คาดการณ์ว่า หลังจากที่มีการเปิดเสรีกัญชา ในปี 2024 โดยเฉพาะในตลาดเวชภัณฑ์ยา บริษัทฯ น่าจะมียอดขายสูงถึง 300 ล้านยูโร และมีกำไรจากการดำเนินงานหลังจากหักค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่าย (EBITDA) ที่ 30% โดยประมาณ ซึ่งในปี 2023 นาย Henn คาดการณ์ว่า ยอดขายน่าจะอยู่ที่ 35 ล้านยูโร และกำไรที่ 25% นาย Henn กล่าวต่อว่า “จากแพทย์ประมาณ 400,000 คน ในเยอรมนี ปัจจุบันมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้สามารถสั่งจ่ายยากัญชาได้ และแพทย์กลุ่มนี้จะต้องเข้าพบผู้ป่วยด้วยตนเองก่อนอีกด้วย” ซึ่งมึความเป็นไปได้ที่ในอนาคตอาจจะมีการอนุญาตให้สั่งยา Online ได้เช่นกัน นาย Henn กล่าวว่า “แพทย์ในบัลแกเรียจะออกใบสั่งยาผ่านการประชุม Online และมีการจะจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยในวันถัดไปผ่านช่องทาง Online เช่นกัน” โดยเมื่อถามถึงกำลังการผลิตของบริษัทฯ  นาย Henn กล่าวว่า “เรามีกัญชา 100 ตันต่อปี ที่สามารถนำมาบรรจุหรือนำมาแปรรูปได้” ในปี 2022 นั้นมีการจำหน่ายกัญชาและสินค้าที่เกี่ยวข้องผ่านร้านขายยาเยอรมันเพียง 15 ตันเท่านั้น โดยธุรกิจหลักในปัจจุบันดำเนินการผ่านร้านขายยา Online นาย Henn กล่าวว่า “ร้านขายยาจำนวน 30 ร้าน ในปัจจุบันก็ตอบสนองความต้องการเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชากว่าครึ่งหนึ่งของตลาดได้เรียบร้อยแล้ว” ในระหว่างที่บริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมกัญชาอย่าง Canopy, Aurora Cannabis และ Tilray ดำเนินธุรกิจไม่ได้ดีนักและยังขาดทุนอยู่ แต่บริษัท Cannamedical ก็ดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี เปิดเผยว่า ในปี 2021 มี 9% ของผู้บรรลุนิติภาวะอายุระหว่าง 18 – 64 ปี ที่แจ้งว่า ได้บริโภคกัญชาอย่างน้อย 1 ครั้ง ในช่วง 12 เดือน ซึ่งรัฐบาลเยอรมันต้องการที่จะนำกัญชาออกจาก พ.ร.บ. ยาเสพติด (BtMG -Betäubungsmittelgesetz) ซึ่งได้ระบุรายชื่อของยาเสพติด อาทิ เฮโรอีน และยาเสพติดประเภทอื่น ๆ ไว้พร้อมกับบทบัญญัติทางอาญาต่าง ๆ ไว้ โดยมีการวางแผนว่า ผู้บรรลุนิติภาวะที่มีอายุมากกว่า 18 ปี สามารถครอบครองกัญชาได้ 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ โดยประมาณ) และตั้งใจที่จะอนุญาตให้สามารถปลูกกัญชาเพื่อบริโภคในครัวเรื่อนส่วนบุคคลได้อีกด้วย โดยอนุญาตให้ปลูก ผลิต และแลกเปลี่ยน ผ่านสมาคมกัญชา (Cannabis Club) แต่สิ่งที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ที่เปิดเสรีกัญชา อาทิ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา หรือ ในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา ก็คือ เยอรมนียังไม่อนุญาตให้เปิดร้านจำหน่ายสินค้าเฉพาะทางที่จำหน่ายดอกกัญชาที่ถูกพันเป็นมวนสำเร็จเพื่อสูบ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากกัญชาได้

ขณะนี้มีบริษัท Start Ups จำนวนมากที่มีความหวังว่า รัฐบาลเยอรมนีจะเปิดเสรีกัญชามากกว่านี้ และยอดจำหน่ายน่าจะขยับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการกัญชาเปิดเผยว่า “การแปรรูป การจัดเก็บ และการกระจายกัญชาที่บางกลุ่มได้พยายามสร้างขึ้นมา อาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอีกต่อไป” ผู้ให้บริการบางรายได้ทยอยออกมาปรับโครงสร้างการทำงาน และบางรายก็ได้แจ้งล้มละลาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นาย Henn คาดว่า จากผู้ประกอบธุรกิจด้านกัญชาในเยอรมนีกว่า 80 ราย ในอนาคตจะมีกว่าครึ่งที่น่าจะหายไปจากตลาด โดย 29% ของ Cannamedical Pharma เป็นของนาย Henn ที่เหลือเป็นของ Orkila Capital บริษัทของสหรัฐอเมริกาและบริษัทร่วมทุนเอกชนอื่น ๆ รวมถึงนักลงทุนเอกชนอย่าง นาย Justin Hartfield ผู้ก่อตั้ง Weedmaps ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมกัญชา นาย Steve Wiggins มหาเศรษฐีชาวสหรัฐฯ ผู้ลงทุนในด้านการดูแลสุขภาพ และนาย Bernhard Maie อดีตผู้บริหารของบริษัท Skoda พวกเขาต่างก็ถือหุ้นบริษัทเช่นกัน จนถึงเวลานี้บริษัท Cannamedical สามารถระดมทุนได้ เป็นมูลค่ารวม 85 ล้านยูโร และก็มีการประเมินมูลค่าของบริษัทไว้ที่ 200 ล้านยูโรโดยประมาณ นาย Henn กล่าวว่า “ในการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น เป็นไปได้ที่หุ้นของบริษัทจะมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านยูโร” โดยในการดำเนินการนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมจะเสนอขายหุ้นบางส่วนจากการถือครองของตน ตามแผนปัจจุบันบริษัท Semdor-Gruppe จะเข้าตลาดหุ้นแบบ 100% นาย Henn กล่าวต่อว่า “บริษัท Cannamedical กำลังหารือกับธนาคารเพื่อการลงทุน JP Morgan และ Berenberg เพื่อเตรียมพร้อมด้านดังกล่าวแล้ว”

จาก Handelsblatt 10 พฤศจิกายน 2566

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login