นายโทมัส คูป นักธุรกิจบริการจัดส่งสินค้าของชำของเว็ปไซต์ร้านค้าออนไลน์ Rohlik.cz ได้เปิดตัวกลุ่มการลงทุนใหม่ชื่อ TCF Capital ซึ่งจะดำเนินการในสาธารณรัฐเช็ก ยุโรปกลางและยุโรปตะวันตก โดยเงินทุนของ TCF Capital จะนำมาลงทุนใหม่ในกองทุนต่าง ๆ โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าร่วมลงทุน แต่กองทุนยังไม่เปิดให้มีการลงทุนจากภายนอก
นายโทมัส คูป ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านค้า Slevomat และ Dáme jídlo ซึ่งในปัจจุบันเรียกว่า foodora ได้เผยถึงแผนการพัฒนาธุรกิจว่าจะเน้นการลงทุนในบริษัทที่ทำกำไร มีสินค้าและบริการที่น่าสนใจ รวมทั้งทีมงานที่มีทัศนคติที่ดี และเลือกโครงการที่เป็นประโยชน์ได้นอกเหนือจากเรื่องการเงิน สำหรับเว็บไซต์ของกองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์เกินกว่า 720 ล้านยูโร โดยมี Rohlik Group เป็นสินทรัพย์หลัก ซึ่งนายโทมัส คูป ระบุว่า Rohlik Group จะเป็น “ยูนิคอร์น” แห่งแรกของเช็ก ปัจจุบันนี้ Rohlik ยังไม่ได้รวมเข้ากับกองทุนในเชิงโครงสร้าง โดยยังคงทำงานแยกกัน แต่งานเชื่อมต่อกัน
กองทุนดังกล่าวจะมุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ e-commerce สินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายได้เร็ว และโลจิสติกส์เป็นหลัก รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง นายโทมัส ระบุว่า บริษัทในกลุ่มธุรกิจการผลิตอาหารต่างประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากนักลงทุนไม่สนใจกลุ่มธุรกิจนี้ เช่นเดียวกับกองทุนจำนวนมากดังกล่าวที่กำลังเติบโตในยุโรปกลางต่างก็ไม่สนใจกับธุรกิจนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งการที่บริษัทประเภทนี้เข้ากองทุน จึงคาดหวังว่าจะสามารถมีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางหรือแผนงานของบริษัทได้ โดยระบุว่ามีความสนใจบริษัทที่สามารถสร้างโอกาสทางการตลาดได้ โดยเฉพาะโครงการที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีการบริหารงานโดยทีมงานที่มีแนวความคิดที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้มีโอกาสทางการตลาด
ข้อเสนอแนะ/โอกาส/แนวทาง
ปัจจุบันสินค้าออนไลน์หรือ e-commerce ในสาธารณรัฐเช็กยังพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และราคาพลังงานในสาธารณรัฐเช็ก ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น และมีผลกระทบต่อธุรกิจการค้าออนไลน์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี ธุรกิจออนไลน์ยังมีโอกาสขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดตัวแผนการลงทุนของผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ของเช็ก โดยมีแผนการนำเงินมาลงทุนในธุรกิจ e-commerce
สำหรับผู้ประกอบการไทย ควรติดตามสถานการณ์การค้าของตลาดเป้าหมายทั้งในรูปแบบร้านค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ และนำข้อมูลมาวางแผนพัฒนาการผลิต ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ทั้งนี้ การนำข้อมูลที่มาจากกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อจะได้นำข้อมูลมาพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มว่าตลาดค้าปลีกออนไลน์ในตลาดเช็กจะมีความคึกคักมากขึ้นด้วยการลงทุนใหม่ ๆ ทำให้เห็นแนวโน้มการพัฒนาของตลาดออนไลน์ในเช็กชัดเจนมากขึ้น
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)