ธนาคารกลางไนจีเรียแจ้งว่าธนบัตรเก่าไนร่าทุกใบยังคงเป็นเงินที่ชำระได้ตามกฎหมาย และไม่มีใครสามารถปฏิเสธที่จะรับชำระเงินด้วยธนบัตรเก่าไนร่าได้เนื่องจากธนบัตรทั้งหมดที่ออกโดยธนาคารกลางไนจีเรียยังคงเป็นเงินที่ชำระได้ตามกฎหมายตามมาตรา 20(5) ของพระราชบัญญัติธนาคารกลางไนจีเรียปี 2007 และยังกำชับให้สาขาธนาคารกลางทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการออกธนบัตรรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ที่มีราคาต่างกันในปริมาณที่เพียงพอฯ ทั้งนี้ คำสั่งธนาคารกลางดังกล่าวเกิดขึ้นตามรายงานการขาดแคลนเงินสดในเมืองใหญ่ๆ บางเมืองในประเทศแม้ว่าธนาคารกลางจะรับรองว่ามีเงินสดคงเหลือเพียงพอในทุกสถานที่ทั่วประเทศเพื่อหมุนเวียนให้กับลูกค้าธนาคารสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติทั้งหมดก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงความวิตกกังวลในหมู่ประชาชนบางส่วนเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของธนบัตรไนร่าเก่าเนื่องจากอดีตผู้ว่าธนาคารกลางไนจีเรียได้กำหนดให้เลิกใช้ธนบัตรเก่าหลังสิ้นเดือนธันวาคม 2566 ดังนั้น จึงได้แจ้งเพื่อประชาชนทั่วไปเข้าใจและยอมรับธนบัตรที่ออกโดยธนาคารกลางทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบันจะได้ไม่ไปถอนเงินอย่างตื่นตระหนกและสามารถลดแรงกดดันต่อการใช้เงินสดโดยสามารถใช้รูปแบบการชำระเงินด้วยทางเลือกอื่นๆ
ทั้งนี้ ความกังวลของชาวไนจีเรียเกี่ยวกับความพร้อมของเงินสดสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินนั้น ธนาคารกลางได้ให้ความมั่นใจกับสาธารณชนว่ามีธนบัตรไนร่าเพียงพอสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศโดยสาขาของธนาคารกลางทั่วประเทศกำลังทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าการหมุนเวียนของเงินสดเป็นไปอย่างราบรื่นโดยการออกสารบบต่อสาธารณะว่ามีสต็อกธนบัตรเพียงพอในเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ ที่จุดขายและบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
อนึ่ง ในเดือนตุลาคม 2565 อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางไนจีเรียเปิดนโยบายไร้เงินสดของรัฐบาลโดยการออกแบบธนบัตรใหม่ของเงินไนร่าบางมูลค่าธนบัตรฯ (ธนบัตร 200, 500 และ 1,000 ไนร่า) และลดการหมุนเวียนของธนบัตรเก่าเพื่อเพิ่มธุรกรรมไร้เงินสดในระบบเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมธนบัตรที่หมุนเวียนในตลาด ควบคุมธนบัตรปลอมและการจ่ายค่าไถ่แก่ผู้ลักพาตัว/ผู้ก่อการร้ายฯ รวมทั้ง ควบคุมอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ โดยกำหนดให้คงสถานะธนบัตรเก่าสำหรับการชำระเงินตามกฎหมายได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกต่อต้านโดยภาคเอกชน สหภาพแรงงาน และเกือบทุกคนในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกระบุว่ากรอบเวลาอันสั้นในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลทำให้เกิดความยากลำบากภายในประเทศไนจีเรีย นอกจากนี้ ผลพวงของการขาดแคลนเงินสดที่ตามมาหลังการดำเนินการส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไนจีเรียลดลงเหลือ 2.31 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2566 หลังจากการแทรกแซงหลายครั้ง ศาลฎีกาในปี 2566 ได้สั่งให้ธนาคารกลางไนจีเรียรักษาความถูกต้องตามกฎหมายของธนบัตรเก่า 200, 500 และ 1,000 ไนร่าควบคู่ไปกับธนบัตรที่ออกแบบใหม่จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)