หน้าแรกTrade insight > ตลาดหัตถกรรมในสหรัฐฯ

ตลาดหัตถกรรมในสหรัฐฯ

ตลาดหัตถกรรมในสหรัฐฯ

งานหัตถกรรมหรือที่รู้จักกันในนามของ “งานฝีมือ” คือ ชิ้นงานที่ผลิตขึ้นมาด้วยมือผ่านทักษะอันเชี่ยวชาญ โดยมีการผสมผสานเทคนิค ความคิดสร้างสรรค์และศิลปะดั้งเดิมเข้าด้วยกัน สินค้าหัตถกรรมมีหลายประเภท อาทิ งานผ้าและสิ่งทอ งานเซรามิค งานไม้ งานโลหะ และงานเครื่องประดับ เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วงานฝีมือจะใช้เพียงแค่เครื่องมือหรือเครื่องจักรง่ายๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นแม้เป็นสินค้าชนิดเดียวกัน อาจมีความแตกต่างกัน ไม่เหมือนกับสินค้าผลิตโดยเครื่องจักรโรงงานที่สามารถผลิตสินค้าชนิดเดียวกันให้มีรายละเอียดเหมือนกันได้ในจำนวนมาก

ในปี 2565 ตลาดหัตถกรรมในประเทศสหรัฐอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 2.683 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และถูกคาดการณ์ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะทำรายได้สูงถึง 4.676 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2571 หรือขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.8


ปัจจัยที่ทำให้ตลาดกลุ่มนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจกับวัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างเพิ่มมากขึ้น รวมถึง มองเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของงานฝีมือแต่ละชิ้น โดยมองว่าสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น  และเลียนแบบได้ยาก ต่างจากสินค้าโรงงานที่เครื่องจักรผลิตออกมาซ้ำๆกัน ผู้คนจึงหันมาสนใจงานหัตถกรรมเพิ่มขึ้น ชาวอเมริกันส่วนมากที่ซื้อสินค้านี้มักต้องการที่จะเข้าใจในเรื่องราวและสิ่งที่ช่างฝีมือต้องการสื่อสารผ่านตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆ อาทิ เครื่องปั้นดินเผาของชนพื้นเมืองอเมริกัน (อินเดียนแดง) ที่มีบอกเล่าประวัติศาสตร์ผ่านลวดลายและสัญลักษณ์บนชิ้นงาน หรืองานลูกปัดจากแอฟริกา ที่ทำขึ้นมาจากกระดูกสัตว์ เปลือกหอย และหินธรรมชาติ เป็นต้น

ปัจจัยอีกหนึ่งประการที่ขับเคลื่อนตลาดงานฝีมือในสหรัฐฯ ส่งผลมาจากที่ ชาวอเมริกันนิยมเรียนรู้ถึงความสำคัญและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่างๆ อีกทั้งยังต้องการสนับสนุนช่างฝีมือท้องถิ่นและธุรกิจขนาดเล็กโดยตรง ด้วยเหตุนี้ ช่างฝีมือจำนวนมากจึงได้ทำการขยายช่องทางการขายสู่ตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็นของผู้บริโภค ในขณะที่ผู้บริโภคก็สามารถรับชมและเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เช่น  Etsy, Bonanza, Amazon Handmade, Facebook Marketplace, Ebay, iCraft, Aftcra, Goimagine, Ruby Lane, Storenvy, Indie Cart, Handmade Artists Shop, Uncommon Goods, Faire, Tundra, Cratejoy และ Just Artisan เป็นต้น

หากพูดถึงเว็บไซต์ซื้อ-ขายงานฝืมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐฯ คงหนีไม่พ้น www.etsy.com ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยส่งเสริมให้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กให้ขยายธุรกิจได้ในวงกว้าง และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านผู้ผลิตได้โดยตรง ปัจจุบัน Etsy มีจำนวนฐานลูกค้ากว่า 95 ล้านคน และมีจำนวนผู้ขายงานฝีมือใน Etsy กว่า 7.47 ล้านคน
เป็นเพศหญิงประมาณ 87 เปอเซ็นต์ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 39 ปี โดย 90 เปอเซ็นต์เป็นเจ้าของธุรกิจเพียงแต่ผู้เดียวหรือทำร่วมกับสมาชิกภายในครอบครัว และจำนวนผู้ขายกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มาจากพื้นที่ชนบทและชานเมืองของสหรัฐฯ

สำหรับเทรนด์สินค้าหัตถกรรมที่น่าจับตามองในสหรัฐฯ แบ่งเป็น 8 ประเภท ดังนี้

  1. สินค้าหัตถกรรมจากเครื่องไม้ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ซึ่งแสดงถึงทักษะของช่างฝีมือ ทั้งในการเหลา การแกะสลัก และการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ อาทิ เฟอร์นิเจอร์แกะสลัก ภาชนะเครื่องครัว แจกัน ของเล่น และของสะสม เป็นต้น
  2. สินค้าหัตถกรรมประเภทโลหะ คือ งานหัตถกรรมที่ทำจากโลหะ ทั้งเครื่องเงิน ทองแดง หรือทองเหลือง โดยใช้ฝีมือในการหล่อ แกะสลัก หรือวาดลวดลายลงบนชิ้นงาน อาทิ มีด ถาด เครื่องประดับ เป็นต้น
  3. ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากผ้าและสิ่งทอ คือ งานหัตถกรรมที่ช่างฝีมือใช้ความชำนาญในการทอมือหรือเครื่องจักรสานขนาดเล็ก โดยสร้างสรรค์ลวดลายและการลงสีขึ้นมาใหม่ อาทิ ปลอกหมอ ผ้าปูโต๊ะ และผ้าพันคอ เป็นต้น
  4. ผลิตภัณฑ์งานปักและโครเชต์ คือ งานหัตถกรรมที่ช่างฝีมือใช้เทคนิคการปักหรือถัก เพื่อเพิ่มลวดลาย และลูกเล่นให้ผลิตภัณฑ์ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น อาทิ หมวก ที่รองแก้ว และกระเป๋า เป็นต้น
  5. ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเลียนแบบ คือ งานหัตกรรมที่ถูกออกแบบให้เสมือนกับเครื่องประดับต้นฉบับ แต่มีการใช้วัสดุและอุปกรณ์ในเกรดที่ต่ำกว่า อาทิ สร้อย แหวน กำไล ต่างหู เป็นต้น
  6. ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและธูปหอม คือ งานที่ช่างฝีมือผลิตขึ้นโดยผสมผสานเครื่องหอมธรรมชาติ และสมุนไพรในแต่ละพื้นที่เข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดลักษณะ กลิ่น และสีที่แตกต่างกันของชุมชนนั้นๆ
  7. งานประติมากรรม คือ งานที่ช่างฝีมือเลือกใช้วัสดุชนิดต่างๆ ในการสร้างสรรค์งานรูปทรง 3 อาทิ รูปปั้น งานปั้นสำหรับตกแต่ง และกำแพง เป็นต้น
  8. งานเครื่องปั้นดินเผา คือ งานหัตกรรมที่นำดินมาปั้น แกะสลักเป็นรูปแบบต่างๆ และนำไปเผาให้เกิดเป็นรูปทรงที่สวยงาม อาทิ หม้อ กระถาง และภาชนะ เป็นต้น

ความคิดเห็นของสคต. นิวยอร์ก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หัตถกรรมหรืองานฝีมือได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นด้วยปัจจัยหลายประการ ได้แก่ รสนิยมของผู้บริโภค เอกลักษณ์ของสินค้า และการเล่าเรื่องผ่านผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิต และด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้งานฝีมือสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำรายได้เพิ่มขึ้นเอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ชาวอเมริกันเห็นถึงคุณค่าของงานฝีมือ ส่งผลให้ราคาของผลงานกลุ่มนี้มีราคาสูงในท้องตลาด และเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง

หากผู้ประกอบไทยหรือผู้ที่สนใจท่านใดมีความประสงค์ที่จะส่งออกงานหัตถกรรมจากประเทศไทยมายังสหรัฐฯ
นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตลาดงานฝีมือของไทยออกมาสู่ตลาดโลก เพื่อแสดงให้ชาวอเมริกันเห็นถึงคุณค่า และขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่ซ่อนอยู่ในตัวผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น

www.macrotrends.net / www.imarcgroup.com / www.statista.com /www.wunderlabel.com / www.linkedin.com / www. companiesmarketcap.com

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login