ตามข้อมูลขององค์กรที่ปรึกษาทางการตลาดและการวิจัยระดับโลก ระบุว่า ในปี 2564 ตลาดการดูแลสุขภาพและการจัดการด้านสุขภาพทั่วโลกของผู้หญิงมีมูลค่าสูงถึง 25.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปี 2573 จะเติบโตถึง 97.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอัตราการเติบโตรายปี ระหว่างปี 2565 – 2573 คือ คาดว่าจะเกิน 16 % จะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงทั่วโลกมีศักยภาพในการบริโภคอย่างมาก
สำหรับตลาดการดูแลสุขภาพและความงามของผู้หญิงในจีน กำลังดึงดูดความสนใจจากอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้หญิงจีน มีความตระหนักรู้ด้านสุขภาพและศักยภาพในการบริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยจากการสำรวจสำมะโนประชากรระดับชาติครั้งที่ 7 พบว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรหญิงมากที่สุดในโลก ตามข้อมูลในวันที่ 1 พ.ย. 2563 จีนมีประชากรผู้หญิง อยู่ที่ 688 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ มี 436 ล้านคนมีอายุระหว่าง 15 ถึง 59 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพในการบริโภคที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดสุขภาพและความงามของผู้หญิงในจีน มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยตามรายงานการบริโภคด้านสุขภาพในกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงประจำปี 2564 ที่เผยแพร่โดย Ali Health ระบุว่า กลุ่มผู้บริโภคเด็กผู้หญิงและผู้หญิง ต่างใช้เงินไปกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยรายจ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นที่ CAGR ถึง 20 %
นอกจากนี้ เนื่องจากตลาดกลุ่มผู้หญิงจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพ จึงได้มีบริษัท Abbott ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก และได้ลงทุนในภาคส่วนนี้ในจีนมานานหลายปี ระบุว่า เนื่องด้วยฐานประชากรผู้หญิงขนาดใหญ่ ทำให้กลุ่มเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพของผู้หญิงในจีนยังคงมีช่องว่างอีกมาก
โดยตลาดด้านการดูแลสุขภาพและความงามของผู้หญิงมีความต้องการตลอดวงจรชีวิตของผู้หญิง ตั้งแต่วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยหมดประจำเดือน และช่วงบั้นปลายของชีวิต ในช่วงเวลาเหล่านี้ วัยผู้ใหญ่ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีระยะเวลายาวนานที่สุด ซึ่งหากพิจารณาจากหมวดหมู่ย่อย พบว่า ตลาดสุขภาพและความงามของกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงมีโอกาสทางธุรกิจจำนวนมาก เช่น การต่อต้านริ้วรอย การช่วยเรื่องการเจริญพันธุ์ การจัดการการตั้งครรภ์ การลดน้ำหนัก การฟื้นฟูสมรรถภาพหลังคลอด การดูแลแม่และเด็ก และการตรวจทางนรีเวช โดยในบรรดาหมวดหมู่ย่อยเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญของจีนในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ตั้งข้อสังเกตว่าภาคส่วนการต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยและการลดน้ำหนักมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ผู้หญิงมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการชะลอวัยตั้งแต่เนิ่นๆ มากขึ้น และมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก Bevol แพลตฟอร์มข้อมูลเครื่องสำอางในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย แสดงให้เห็นว่าในผู้บริโภคกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงในจีนที่มีอายุระหว่าง 18 – 35 ปี มากกว่า 95 % ประสบปัญหาผิวหนังแก่ก่อนวัย มากกว่า 60 % ประสบปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวเหลืองและหมองคล้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยผู้บริโภค 30 % เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องริ้วรอยบนผิว
ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาผิวแก่ก่อนวัย ปัจจุบันผู้หญิงจีนจึงให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยินดีจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งสินค้าที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถาบันเสริมความงาม เครื่องสำอาง อุปกรณ์เสริมความงาม ยาและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ในบรรดาตัวเลือกดังกล่าว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การดูแลผิวหนังทางการแพทย์ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Frost & Sullivan ในจีน แสดงให้เห็นว่าในปี 2565 ธุรกิจความงามทางการแพทย์โดยไม่ต้องผ่าตัดของจีนมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 120.7 พันล้านหยวน โดยเพิ่มขึ้น 23.5 เมื่อเทียบเป็นรายปี และแซงหน้าตลาดความงามทางการแพทย์ด้านศัลยกรรมด้วย จึงคาดว่าภายในปี 2573 ตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 415.7 พันล้านหยวน จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและความงามในจีน มีโอกาสทางธุรกิจและมีศักยภาพเติบโตอย่างมาก
ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลจะเห็นได้ว่าผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงในจีนกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคขับเคลื่อนหลักในการบริโภคด้านสุขภาพและความงาม เนื่องจากปัจจุบัน ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ตลอดจนการปรับปรุงขีดความสามารถในการบริโภคอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ส่งออกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การดูแลสุขภาพและความงาม ควรศึกษาพฤติกรรมการบริโภคและติดตามสถานการณ์แนวโน้มการบริโภคของผู้หญิงจีน ติดตามข่าวสารจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือจากงานแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับสุขภาพและความงามในจีน เพื่อที่จะสามารถผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงในตลาดจีนได้ต่อไป
https://www.chinadaily.com.cn/a/202309/14/WS65025f76a310d2dce4bb5a4f.html
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)