หน้าแรกTrade insightอุตสาหกรรมอื่นๆ > ดูไบติดอันดับโลกของ FDI อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ปี 2565

ดูไบติดอันดับโลกของ FDI อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ปี 2565

รัฐดูไบศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้รับการจัดอันดับสูงสุดระดับโลก ในการดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) สาขาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Culture & Creative industries) ประจำปี 2565

จากรายงานของ Dubai FDI Monitor ซึ่งรวบรวมโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของดูไบ (Dubai’s Department of Economy and Tourism : DET) และจากฐานข้อมูลของ ‘fDi Markets’ ของ Financial Times สื่ออังกฤษด้านธุรกิจและการเงิน ระบุว่าดูไบเป็นเมืองที่ได้รับการลงทุนใหม่ (greenfield investment) จากต่างชาติคิดเป็นจำนวน 451 โครงการ  เพิ่มขึ้นร้อยละ 107.7 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งนับว่าเป็นสถิติการลงทุนจากต่างประเทศในสาขาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มากที่สุดแซงหน้าเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก เช่น ลอนดอน สิงคโปร์ ปารีส และเบอร์ลิน

Sheikha Latifa bint Mohammed bin Rashid Al Maktoum ประธาน Dubai Culture and Arts Authority และสมาชิกสภาดูไบ กล่าวว่า “ความสำเร็จที่โดดเด่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของดูไบ เน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ”

“ดูไบสามารถดึงดูดนักประดิษฐ์และบุคคลที่มีความสามารถทั่วโลก โดยจัดหาสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหรือการนำความรู้และข้อมูลมาใช้ประโยชน์  ดูไบสามารถบรรลุเป้าหมายนี้โดยใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และสถานะที่มีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนําสําหรับการใช้ชีวิตการทํางานและการลงทุน นอกจากนี้ ดูไบยังมุ่งมั่นที่จะสร้างภูมิทัศน์การพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งอยู่เหนือปัจจุบันและอนาคต และในที่สุดก็จะวางตําแหน่งตัวเองเป็นเมืองหลวงระดับโลกของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภายในปี 2569 ”

ทั้งนี้ Creative Industries เป็นการรวมตัวของศิลปะ ธุรกิจ และเทคโนโลยี เป็นภาคอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีศักยภาพในการสร้างงานและผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถใช้หาประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่งคั่งและสร้างงาน ผ่านการสั่งสมและการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สินทางปัญญา

กระแสเงินทุน FDI ทั้งหมดของดูไบในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2565 โดยเป็นเมืองอันดับ 1 ในภูมิภาค MENA และอันดับที่ 12 ของโลก (เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 14 ในปี 2564) FDI นี้สามารถสร้างงานประมาณ 12,368 ตําแหน่ง สูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค MENA และอันดับที่ 6 ของโลก (อันดับเดียวกับปี 2564) ของการสร้างงานใน FDI

การเติบโตสอดคล้องกับแผนเศรษฐกิจดูไบ (D33)

นาย Helal Saeed Almarri ผู้อํานวยการทั่วไปของกระทรวงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของยูเออีกล่าวว่า      “ความสําเร็จที่น่าทึ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ของการดำเนินงานตามแผนเศรษฐกิจ Dubai Economic Agenda (D33) หรือโครงการปฎิรูปอนาคต จะใช้เงินประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อัดฉีดเข้าในเศรษฐกิจผ่าน 100 กว่าโครงการ อยู่ในโรดแมปเศรษฐกิจระยะ 10 ปี  โดยมุ่งเป้าเร่งยกระดับการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ หวังจะสร้างดูไบให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก โดยจะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ให้เพิ่มขึ้นในทศวรรษหน้า  และกลายเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจชั้นนำของโลก และจากที่ดูไบได้รับการจัดอันดับ 1 ของโลก ในการดึงดูดโครงการ FDI เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CCI) แสดงถึงความมุ่งมั่นของดูไบในการสร้างและใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก และระบบกฎหมายที่กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถระดับโลกนักลงทุนและผู้ประกอบการ และหวังว่าจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความน่าดึงดูดใจของภาคส่วนนี้ในตลาดโลก”

นอกจากนี้ข้อมูลของ Dubai FDI Monitor ระบุว่าการลงทุนใหม่จากต่างชาติ (ถือหุ้นทั้งหมด) คิดเป็นร้อยละ 76 ในอุตสาหกรรม CCI ของดูไบปี 2565 ตามด้วยการลงทุนรูปแบบใหม่ (NFIs) คิดเป็นร้อยละ 13% การควบรวมและซื้อกิจการและโครงการลงทุนใหม่คิดเป็นร้อยละ 5 และการลงทุนใหม่ (กิจการร่วมค้า) อยู่ที่ร้อยละ 1% ในส่วนของแหล่งลงทุน พบว่าสหรัฐอเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นนักลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศชั้นนําในสาขา CCI  ของดูไบ  ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร อยู่ในอันดับต้นๆ ในแง่ของการไหลเข้าของเงินทุน FDI

เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในดูไบ

แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นแนวคิดที่พึ่งพาความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและไอเดียใหม่ๆของผู้คนมาช่วยในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รัฐบาลดูไบมุ่งที่จะเป็นเมืองหลวงของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภายในปี 2569 โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาคน การสนับสนุนทางด้านการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนที่ให้กับธุรกิจขนาดย่อม  โดยเน้นทางด้านบริการ ซึ่งรวมถึงการจัดการ การเงิน การตลาด และโลจิสติกส์ เช่น Content Industry ซึ่งรวมถึง ซอฟท์แวร์เกมส์ บริการการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบกําหนดเอง  สถาปัตยกรรม วิศวกรรม และบริการที่เกี่ยวข้อง ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประมวลผลข้อมูล Data Processing เป็นเจ้าภาพจัดงานและการประชุมสำคัญ และบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา

การเป็นแหล่งช็อปปิ้งเครื่องประดับอัญมณี เสื้อผ้า เครื่องหนัง แบรนด์เนมหรูหรา  ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันทึกเสียงก็มีบทบาทเพิ่มขึ้น วิถีเหล่านี้เป็นแบบอย่างของการปรับตัวและความยืดหยุ่นของดูไบในการดูแลอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เหล่านี้ทั้งหมด

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์และการบันทึกเสียงเริ่มได้รับความน่าสนใจ โดยมี Dubai Studio City เป็นสถานที่ตั้งบริษัทและสตูดิโอผลิตภาพยนต์และรายการทีวี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบทบาทของเมืองกําลังขยายตัว วิถีเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและความยืดหยุ่นของดูไบในการปลูกฝังอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เหล่านี้ทั้งหมด

ความเห็นของ สคต. ณ เมืองดูไบ

ท่ามกลางกระแสแห่งความไม่แน่นอน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และสภาพคล่องที่ลดลงทั่วโลก ภารกิจในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ดูไบอยู่ในสถานะที่ดีที่จะยังคงเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับการไหลเข้าของ FDI เนื่องจากตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่เป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางการค้าที่สำคัญ อัตราภาษีที่เอื้ออำนวย นโยบายและรัฐบาลที่แข็งแกร่ง และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา และจะยังคงเป็นตลาดสำคัญรองรับการส่งออกของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง

*********************

ที่มา : GULF BUSINESS

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login