หน้าแรกTrade insightเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า > ดอก Lily of the valley สัญลักษณ์ของวันแรงงาน สร้างรายได้ปีละ 100 ล้านยูโรในฝรั่งเศส

ดอก Lily of the valley สัญลักษณ์ของวันแรงงาน สร้างรายได้ปีละ 100 ล้านยูโรในฝรั่งเศส

วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีจะเป็นเทศกาลมอบดอก lily of the valley ในฝรั่งเศส ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่องทางรายได้สำคัญถึง 1 ใน 3 ต่อปีให้กับผู้เพาะพันธุ์ดอกไม้ชนิดนี้

  • เมื่อใกล้ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ในแต่ละปี ผู้เพาะพันธุ์ดอก lily of the valley ต่างต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีโอกาสขายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในหนึ่งปี ดังเช่น บริษัท Valbray ผู้เพาะพันธุ์และขายส่งดอก lily of the valley อันดับหนึ่งในฝรั่งเศส ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 20 ตั้งอยู่ที่เมือง Hyères และเมือง Ouillioules แคว้น Var ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยมีรายได้สำคัญถึง 1 ใน 3 จากดอกไม้ประเภทนี้
  • ดอก lily of the valley เริ่มปลูกในเดือนมีนาคม   หลังจากนั้นหนึ่งเดือนผู้เพาะพันธุ์จะจัดส่งต้นอ่อนจำนวนหนึ่งไปยังประเทศฝรั่งเศสโพ้นทะเล ในขณะที่ต้นอ่อนอีกส่วนหนึ่งที่เติบโตต่อในศูนย์เพาะจำนวน 800,000 ต้นจนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะถูกส่งเข้าศูนย์กลางสั่งซื้อสำหรับขายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ภายในประเทศ      การเก็บกิ่งดอก lily of the valley มีมาตรฐานที่เข้มงวด โดยดอกไม้ต้องอยู่ในระยะที่มีกลิ่นหอมพอเหมาะและไม่บานเกินไปซึ่งช่วยให้เก็บรักษาได้หลายวัน, ก้านหลักประกอบด้วยดอกไม้ 14 – 20 ดอก อยู่บนกิ่งที่มีความยาว 25 – 30  ซม.
  • หลังจากต้นกล้าเริ่มโต ลูกจ้างประจำของบริษัท Valbray จำนวน 25 คนผลัดเปลี่ยนหน้าที่ตรวจตราดอกไม้วันละสองครั้งเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิที่เหมาะสม ว่าควรปรับให้ต้นกล้าเข้าห้องเย็น หรือเติบโตในเรือนกระจก ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในขณะนั้น ซึ่งช่วยให้ดอกไม้เติบโตในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด  นาย Melcoire de Valbray หนึ่งในลูกชายผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกล่าวว่าทางบริษัทใช้เพียงประสบการณ์กว่า 40 ปีในการเพาะเลี้ยงดอกไม้ชนิดนี้เป็นมาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่ใช้เทคโนโลยีอื่นๆเข้าช่วยในการตรวจสอบ
  • บริษัท Valbray เป็นหนึ่งในบริษัทผู้เพาะพันธุ์ดอกไม้ชนิดนี้ ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส ในขณะที่ผู้เพาะพันธุ์รายอื่นๆตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Nantes ทางตะวันตกของประเทศฝรั่งเศสที่มีสภาพภูมิอากาศจากทะเลที่อบอุ่นและชื้น  เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของดอก Lily of the Valley      โดยรวมแล้วในแต่ละปี ผู้เพาะพันธุ์ดอก Lily of the Valley ทั่วประเทศ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งสิ้นกว่า 60 ล้านกิ่ง ไม่รวมถึงดอกที่เก็บจากธรรมชาติเพื่อนำมาขาย ส่งผลให้ยอดขายในแต่ละปีสูงถึง 100 ล้านยูโร ผ่านการดูแลของแรงงานประจำกว่า 2,000 คน และเพิ่มการจ้างแรงงานเสริมสำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะกว่า 4,000 คน
  • ดอก Lily of the Valley เริ่มเป็นสัญลักษณ์วันแรงงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 1886   หลังเหตุการณ์ประท้วงครั้งสำคัญที่ เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนหนึ่งจากการขายดอกไม้ในแต่ละปีช่วยสนับสนุนสหภาพแรงงาน ซึ่งนอกจากดอก Lily of the valley แล้ว ประเทศฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆต่างใช้ดอกไม้เพื่อสื่อความหมายทางสัญลักษณ์ในโอกาสต่างๆ ดังเช่น ดอก Bleuet (ดอกไม้สีน้ำเงินขนาดเล็กในตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน) เป็นสัญลักษณ์ในวันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคมในฝรั่งเศส   ,ประเทศอังกฤษให้ความสำคัญกับดอก poppy เพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ,ประเทศออสเตรเลียใช้ดอก Narcissus เป็นสัญลักษณ์เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ Gallipoli  ในขณะที่ประเทศแคนาดาใช้ดอก forget me not เป็นสัญลักษณ์ระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
  • นาย Melchior de Valbray กล่าวว่าการเตรียมการขายดอก Lily of the valley ในแต่ละปีมีความกดดันสูงเนื่องจากข้อกำหนดของระยะเวลา เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ทางอื่นทางบริษัท Valbray ขยายตลาดด้วยการเปิดร้านขายปลีกจำนวน 2 สาขา โดยมียอดเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ในแต่ละปีตั้งแต่หลังสถานการณ์โควิด  คิดเป็นมูลค่า 6 ล้านยูโรในปีที่ผ่านมา

ความเห็น สคต.

ฝรั่งฝรดอก lily of the valley เป็นดอกไม้ชนิดเดียวในฝรั่งเศสที่ได้รับอนุญาตให้ขายได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบการค้าเฉพาะใน วันที่ 1 พฤษภาคม นอกจากนั้นร้านดอกไม้สามารถตั้งโต๊ะขายบนทางเท้าได้เป็นกรณีพิเศษ ดอกไม้ตัดดอกเป็นของขวัญยอดนิยมสำหรับเทศกาลต่างๆ ในฝรั่งเศส  คิดเป็นมูลค่าตลาดในแต่ละปีสูงถึง 1,000 ล้านยูโร  ดังเช่น เทศกาลวันแม่ในเดือนพฤษภาคม คนฝรั่งเศสถึงร้อยละ 25 นิยมมอบดอกไม้เป็นของขวัญ    อย่างไรก็ตามดอกไม้ตัดดอกขายในฝรั่งเศสมีเพียงร้อยละ 8 เท่านั้นที่มาจากแหล่งเพาะปลูกในประเทศ นอกเหนือจากนั้นเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านทางตลาดดอกไม้เนเธอแลนด์ และอีกส่วนหนึ่งนำเข้าจากประเทศ โคลัมเบีย ,เคนยา ,เอธิโอเปีย, อิสราเอล ฯลฯ    ประเทศไทยมีพรรณไม้ที่มีความหลากหลาย ทั้งไม้ดอกและไม้ประดับ ซึ่งสามารถสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสินค้าไม้ดอกไม้ประดับมายังฝรั่งเศสได้อีกมาก โดยเฉพาะสินค้าประเภทดอกกล้วยไม้ ซึ่งผู้ประกอบการควรศึกษาความต้องการของตลาดและข้อกำหนดในการส่งออกสินค้าประเภทนี้เพิ่มเติม

Paul Molga

ข่าวออนไลน์ หนังสือพิมพ์ Les Echos

https://www.lesechos.fr/pme-regions/provence-alpes-cote-dazur/le-muguet-un-marche-ephemere-a-100-millions-deuros-1939471

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปารีส

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login