หน้าแรกTrade insightเครื่องดื่ม > งานแสดงสินค้า PLMA’s World of Private Label 2023

งานแสดงสินค้า PLMA’s World of Private Label 2023

งานแสดงสินค้า PLMA’s World of Private Label 2023

ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2566

ณ ศูนย์แสดงสินค้า RAI Exhibition Centre Amsterdam

กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

 

  1. ลักษณะและรูปแบบงาน

ชื่องานแสดงสินค้า             PLMA’s World of Private Label International Trade Show 2023

ระยะเวลาการจัดงาน          23-24 พฤษภาคม 2566

สถานที่จัดงาน                  ณ ศูนย์แสดงสินค้า RAI Exhibition Centre Amsterdam

พื้นที่จัดแสดงสินค้า            42,000 ตารางเมตร

ผู้จัดงาน                        Private Label Manufacturers Association

ประเภทสินค้าที่จัดแสดง       สินค้าอาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ของตกแต่งบ้าน สินค้าเพื่อสุขภาพและความสวยความงาม ของใช้ภายในบ้าน สินค้า DIY เป็นต้น

ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า          2,652 ราย

ผู้เข้าชมงาน                    มากกว่า 15,000 ราย

งานครั้งต่อไป                   28-29 พฤษภาคม 2567

  1. ภาพรวมของงาน

งานแสดงสินค้า PLMA’s World of Private Label International Trade Show (PLMA)  เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหารขนาดใหญ่ จัดโดย Private Label Manufacturers Association (PLMA) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2522 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการทำ Private Label Brand และ Store Brand มีสมาชิกมากกว่า 4,000 บริษัทจากกว่า 75 ประเทศทั่วโลก

งานแสดงสินค้า World of Private Label International Trade Show  เป็นงานแสดงสินค้าประจำปีของ PLMA ซึ่งจัดขึ้นมานานกว่า 35 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ผลิตทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ผู้ประกอบการทั้งค้าส่งและค้าปลีกได้มีโอกาสพบปะหารือ เจรจาการค้า หรือพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อให้เกิดแนวคิดสำหรับสินค้าใหม่ๆ กระตุ้นให้ Private Label Brand มีการเติบโตและมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น

งานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,600 บริษัทจากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งการเข้าร่วมงานแบบ Country Pavilion และ Regional Pavilion มีผู้เข้าชมงานมากกว่า 14,000 รายจาก 120 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของยุโรป ผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ผู้ซื้อรายใหญ่ที่ต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์ของตนเอง เพื่อเจาะตลาดสินค้ากลุ่ม Private Label Brand ซึ่งกำลังมีการขยายตัวทั้งในเนเธอร์แลนด์และยุโรป โดยภายในงานมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท อาทิ สินค้าอาหาร เครื่องดื่ม อาหารว่าง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์สำหรับครัวเรือน ผลิตภัณฑ์ DIY และผลิตภัณฑ์สันทนาการ เป็นต้น

2.1 พื้นที่และการจัดแสดงสินค้า

มีพื้นที่จัดแสดงสินค้าทั้งหมดเกือบ 42,000 ตารางเมตร รวมทั้งหมด 12 อาคารแสดงสินค้า แบ่งออกเป็น อาคารแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และอาคารจัดแสดงสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร อาทิ สินค้าเพื่อสุขภาพและความสวยความงาม ของใช้ภายในบ้าน สินค้า DIY อาคารที่ 1-7 Europe Complex  จัดแสดงสินค้าอาหาร ของทานเล่น และเครื่องดื่ม อาคารที่ 8-9 Park Complex จัดแสดงทั้งสินค้าอาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร อาคารที่ 10-12 Holland Complex จัดแสดงสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ของใช้ต่างๆ สินค้าเพื่อสุขภาพและความสวยความงาม

สินค้าอาหาร

สินค้าอาหารที่จัดแสดงในงานมีความหลากหลายเหมาะกับพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคในปัจจุบัน มีทั้งอาหารสด อาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูป อาหารพร้อมรับประทาน อาหารมังสวิรัติ อาหาร Vegan อาหารออร์แกนิค อาหารกระป๋อง ผักและผลไม้อบแห้ง ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว พาสต้า เครื่องเทศ เครื่องปรุงรสสำหรับทำอาหาร ซอสปรุงรส ซอสสำหรับจิ้ม ขนมปัง เบเกอรี่ เค้ก คุ๊กกี้ ช็อคโกแลต ขนมขบเคี้ยว ของทานเล่นเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงอาหารสำหรับเด็กทารก มีทั้งแบบที่สะดวกในการพกพา และพร้อมรับประทานอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์วิตามินต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ผลิตภัณฑ์วิตามินในรูปแบบของหมากฝรั่งเพื่อให้พลังงาน แต่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่จบในเม็ดเดียว อีกทั้งยังพกพาได้สะดวก

 

 

สินค้าเครื่องดื่ม

เครื่องดื่มที่นำมาจัดแสดงในงานมีทั้งเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ วอดก้า รัม วิสกี้ ไวน์ และยังมีเครื่องดื่มชนิดดังกล่าวที่เป็น 0% แอลกอฮอล์ สำหรับเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ อาทิ น้ำผลไม้ น้ำผักคั้นสด เครื่องดื่มออร์แกนิค น้ำแร่ ชา กาแฟ นมแพะ ผลิตภัณฑ์นมจากพืช Smoothie, Lemonade และ Soft Drink เป็นต้น

อาหารสัตว์เลี้ยง

นอกจากสินค้าอาหารสำหรับคนแล้ว ยังมีการจัดแสดงสินค้าอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง อาทิ สุนัข แมว นก ทั้งอาหารเม็ด อาหารกระป๋อง อาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพและดีต่อช่องปากของสัตว์เลี้ยง และขนมสำหรับเทรนสัตว์เลี้ยง

ผลิตภัณฑ์ Plant-based

ประเภทอาหารที่กำลังมาแรงขณะนี้คงจะหนีไม่พ้น อาหารจากพืช หรือ ​Plant-based ซึ่งเป็นอาหารทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในกลุ่ม Vegan และกลุ่ม Vegetarian ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ และกลุ่ม Flexitarian ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าอาหารจากพืชและอาหารทดแทนเนื้อสัตว์หลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์นมจากเมล็ดถั่วต่างๆ โยเกิร์ต ชีส ไอศรีม ของหวาน ขนมขบเคี้ยว Energy bars ผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืช อาหารมังสวิรัติพร้อมรับประทาน และเครื่องดื่ม Vegan

สินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (Non-food)

สินค้า Non-food เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสินค้าอาหาร เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ผลิตขึ้นมาจากแนวคิดรักษ์โลก การใช้วัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ แปรงสีฟัน ยาสระผม และสบู่ที่ใส่ในบรรจุภัณฑ์กระดาษเพื่อลดการใช้พลาสติก เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผลิตจากธรรมชาติ ผ้าอนามัย กางเกงชั้นในสำหรับวันนั้นของเดือน Reusable Leakproof Pants and Pads (Confitex Technology Limited) กระดาษชำระ ทิชชู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้าน อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาด ถุงมือยาง ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในครัวเรือน ผ้าแว็กซ์ใช้ในการเก็บรักษาอาหารแทนการใช้พลาสติก (Beeswax Wraps) ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ อุปกรณ์การทำสวน ของใช้สำหรับทารก ผ้าอ้อมเด็ก (Reusable Diapers) แผ่น Pads สำหรับน้ำนม รวมทั้งเสื้อผ้าและสิ่งทอ ของใช้ของตกแต่งบ้าน กระเป๋า/ถุงผ้า เทียนหอม สเปรย์ปรับอากาศ และสินค้า DIY ต่างๆ

New Product Expo

New Product Expo เป็นโซนจัดแสดงสินค้าใหม่จำนวนกว่า 450 รายการจาก 38 ประเทศ ทั้งสินค้า New Vegan Product และ New Product Concept รวมถึงสินค้าที่สร้างสรรค์มาจากแนวคิดใหม่ทางการตลาด (New Idea in Marketing) ไอเดียสินค้าใหม่สำหรับซุปเปอร์มาร์เก็ต Idea Supermarket® และสินค้าที่ได้รับรางวัล International Salute to Excellence Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่สินค้า Private Label ที่มีนวัตกรรมและมีคุณภาพ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการกว่า 64 รายจาก 20 ประเทศได้นำเสนอผลิตภัณฑ์มากกว่า 500 รายการเข้าชิงรางวัล โดยมีสินค้าใหม่จำนวน 102 รายการจากผู้ประกอบการ 39 ราย ได้รับรางวัลและได้นำสินค้ามาจัดแสดงใน New Product Expo สินค้าที่ได้รับรางวัลมีทั้งสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความสวยความงาม

2.2 ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า

งานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงาน 2,652 รายจาก 72 ประเทศทั่วโลก อาทิ อัลเบเนีย โคเอเชีย ฮังการี ออสเตรีย เบลเยี่ยม บราซิล แคนาดา คอสตาริก้า ไซปรัส ฟินแลนด์ กรีซ เอสโตเนีย ฝรั่งเศส อิสราเอล อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย มาเลเซีย นอร์เวย์ เซอร์เบีย โปแลนด์ ตุรกี สโลเวเนีย สปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ไทย เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เวียดนาม เป็นต้น มีประเทศที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้านี้เป็นครั้งแรก คือ อาร์เจนติน่า นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ การเข้าร่วมงานมีทั้งแบบ Country Pavilion, Regional Pavilion และรายบริษัท โดยในปีนี้ คอสตาริก้าเข้าร่วมงานในรูปแบบ Country Pavilion เป็นครั้งแรก

งาน PLMA ครั้งนี้มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานจำนวน 5 ราย แบ่งออกเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอาหาร 3 ราย  ได้แก่ บริษัท Exotic Food Public Company Limited บริษัท K.R.S. Spicy Food Co.Ltd บริษัท Prime Products Industry Co., Ltd. ทั้งสามบริษัทเคยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า PLMA มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งการเข้าร่วมงานได้รับการตอบรับอย่างดีทุกครั้ง มีผู้เข้าชมงานสนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัท และได้พบคู่ค้าใหม่ประมาณ 10-20 ราย และอีก 2 ราย เป็นบริษัทผู้ผลิตถุงมือยาง ได้แก่ บริษัท Master Glove Industry Co., Ltd. และบริษัท Super Glove Industry Co., Ltd. โดยจัดแสดงสินค้าคูหาติดกันในอาคารแสดงสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร

 

2.3 ผู้เข้าชมงาน

งานในครั้งนี้ผู้เข้าชมงานมากกว่า 15,000 คน จาก 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นผู้ซื้อจากทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำไปจนถึงผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนไปจนถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม

  1. ข้อเสนอแนะและความเห็นของ สคต.

งานแสดงสินค้า PLMA’s World of Private Label International Trade Show มีการจัดงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีการอำนวยความสะดวกทั้งในแง่ของสถานที่และบริการออนไลน์ที่สามารถทำให้ผู้ประกอบการที่มาเข้าร่วมงานแสดงสินค้ามีโอกาสเข้าถึงบริษัทคู่ค้าตามวัตถุประสงค์และตรงตามความคาดหมาย มีการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น PLMA’s Online Show Navigator ทางโทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet เพียงแค่ล็อคอินและสแกน QR code ผู้เข้าชมงานก็สามารถทราบแผนผังคูหาของบริษัทคู่ค้าได้ล่วงหน้า 30 วันก่อนวันที่งานจะเริ่มจัดแสดง นอกจากนี้ ยังมี PLMA’s Online Product Announcements  แจ้งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะจัดแสดงในงาน ทำให้ผู้เข้าชมงานสามารถรับรู้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่อะไรบ้างที่บริษัทจะนำมาจัดแสดงในงาน และระบบ PLMA Matchmaker™ ซึ่งเป็นช่องทางในการจัดทำนัดหมายออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการกับบริษัทคู่ค้า ซึ่งสามารถจัดทำนัดหมายได้ล่วงหน้าก่อนงานแสดงสินค้าจะเริ่มขึ้น

ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้เข้าชมงานให้ความสนใจอย่างมากเป็นสินค้าที่เกิดจากแนวคิดและไอเดียตามกระแสสังคมและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะเห็นได้จากบริษัทจำนวนมากนำเสนอผลิตภัณฑ์ Plant-based เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล International Salute to Excellence Awards ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์เรื่องความยั่งยืน เน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้อีก หรือสามารถนำมารีไซเคิลได้ สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Products)

งานแสดงสินค้า PLMA ถือว่าเป็นงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพและมีโอกาสทางการตลาดสูงสำหรับผู้ประกอบการไทยที่รับผลิตสินค้า Private Label Brand ที่สนใจจะเจาะหรือขยายตลาดมายังเนเธอร์แลนด์และยุโรป ซึ่งสินค้า Private Label Brand กำลังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเงินเฟ้อและสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน งานแสดงสินค้า PLMA เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกับคู่ค้าในตลาดเพิ่มมากขึ้น ทั้งผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกรายใหญ่ และผู้ซื้อรายใหญ่ที่ต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์ตนเอง จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเจาะและขยายตลาดสินค้ากลุ่ม Private Label Brand มายังเนเธอร์แลนด์และยุโรป

ทั้งนี้ งานแสดงสินค้า PLMA’s World of Private Label International Trade Show เป็นงานแสดงสินค้าที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการเข้าร่วมงานฯ ภายใต้โครงการ SMEs Pro-Active ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงานฯ สามารถขอรับการสนับสนุนจากกรมฯ ภายใต้โครงการดังกล่าวได้

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login