จากการศึกษาโดย Harris Poll Data ถึงความคาดหวังของผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรต่อการซื้อสินค้าออนไลน์ พบว่า
– ผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรที่ทำการสำรวจร้อยละ 52 เห็นว่าร้านค้าออนไลน์ควรจะมี loyalty program เพิ่มขึ้น
– ผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรที่ทำการสำรวจร้อยละ 45 อยากเห็นร้านค้ามีขั้นตอนในการสั่งซื้อสินค้าและชำระเงิน (checkout) ที่ง่าย
– ผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรที่ทำการสำรวจร้อยละ 39 ไม่ชอบการโฆษณาที่มากเกินไปบนเว็บไซต์
– ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ที่ทำการสำรวจร้อยละ 55 คาดหวังว่า AI จะช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์มีความสะดวกขึ้นใน 5 ประการ คือ ช่วยในการเปรียบเทียบราคาสินค้า การค้นหาส่วนลด การค้นหาสินค้า การค้นหารีวิว และ การให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าแต่ละราย (personalised assistance)
ทั้งนี้จากการศึกษาของบริษัท Shopify พบว่าขั้นตอนในการสั่งซื้อสินค้าและชำระเงินที่ง่ายจะช่วยลดอัตราการยกเลิกการสั่งซื้อสินค้ากลางคัน (abandon shopping cart) โดยผู้บริโภคจะหันไปหาแบรนด์ที่มีขั้นตอนการชำระเงินที่สะดวก โดยร้านค้าออนไลน์ควรจะตัวเลือกให้กับลูกค้าในการชำระเงินที่รวดเร็ว (solution) ได้แก่ Apple Pay, PayPal และ Klarna เป็นต้น
ที่มา: Mediaplanet และ Ecommerce News
ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต.
สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในตลาด ecommerce ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยยอดขายสินค้าในช่องทาง ecommerce ในปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 30 ของการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีกทั้งหมด ทั้งนี้ ร้อยละ 80 ของชาวสหราชอาณาจักรเคยซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้ง โดยส่วนแบ่งตลาดสินค้าที่จำหน่ายในช่องทาง ecommerce แบ่งเป็น สินค้าแฟชั่น (ร้อยละ 30) สินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์ personal care (ร้อยละ 24.1) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และมีเดีย (ร้อยละ18.6) ของเล่น สินค้าสำหรับงานอดิเรก และ DIY (ร้อยละ 15.7) และ สินค้าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ (ร้อยละ 11.6) สำหรับเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์รายใหญ่ 3 อันดับแรก คือ Amazon, Tesco และ eBay
สคต. เห็นว่าตลาดสหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายการจำหน่ายสินค้าไทยในช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ดีตลาด ecommerce ในสหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยผู้ประกอบการควรพิจารณาพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้วิธีการสั่งซื้อสินค้าและการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งควรมีตัวเลือกในการชำระเงิน ได้แก่ Apple Pay, PayPal และ Klarna เป็นต้น อย่างไรก็ดีหากผู้ประกอบการไม่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ อาจจะพิจารณาจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์ม Amazon UK โดย Amazon ได้มีข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการวางจำหน่ายสินค้าโดยสามารถหาข้อมูลได้ที่ https://sell.amazon.co.uk/sell-online
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)