ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (11 – 12 พฤศจิกายน 2566) ประชาชนชาวสเปนรวมตัวประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อีกครั้งหลายเมืองทั่วประเทศ เพื่อแสดงจุดยืนในการต่อต้านการรวมขั้วทางการเมืองของรักษาการนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส กับพรรคฝ่ายซ้ายจัดที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนและผลักดันการนิรโทษกรรมนักโทษกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกาตาลัน
ตัวเลขผู้ประท้วงที่มากที่สุดอยู่ในกรุงมาดริด 80,000 คน โดยส่วนมากรวมตัวกันที่จัตุรัส Sol ใจกลางเมือง ตามมาด้วยเมืองเซบีญา 40,000 กรานาดา 30,000 มาลากา 30,000 บาเลนเซีย 24,000 อลิกันเต้ 20,000 กอร์โดบา 15,000 ซานตานเดร์ 15,000 อัลเมเรีย 12,500 เจน 10,000 บาร์เซโลนา 6,500 กาเซเรส 6,000 อูเอลบา 5,000 โตเลโด 5,000 กัสเตยอน 4,500 กาดิซ 3,800 ซานตา ครูซ เดอ เตเนริเฟ่ 2,000 ลาสปัลมาส เดอ กรัง คานาเรีย 2,500 ตาร์ราโกนา 600 เยย์ดา 200 กิโรน่า 100
สถานการณ์ทางการเมืองของสเปนมีความไม่มั่นคงมาระยะหนึ่งแล้ว โดยตั้งแต่สเปนมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อกรกฎาคม 2566 พรรค PP ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวากลางที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดจากประชาชน นำโดย นายอัลแบร์โต นูเนซ เฟย์จู ไม่ประสบความสำเร็จในการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นโอกาสของนายเปโดร ซานเชซ จากพรรค PSOE รักษาการนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันในการรวบรวมเสียงข้างมาก จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นายเปโดร ซานเชส บรรลุความตกลงในการเจรจาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายซ้ายจัดที่ต้องการแยกกาตาลุญญา และ บาสก์ เป็นอิสระจากสเปน โดยยอมแลกเปลี่ยนกับการนิรโทษกรรมให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางนักการเมืองของกาตาลัน เป็นผลให้ประชาชนชาวสเปนจำนวนมาไม่พอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำเพื่ออำนาจส่วนตนมากกว่าส่วนรวม นอกจากนี้ ชาวสเปนยังเห็นว่าการรวมพรรคดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน
อนึ่ง จากสถิติล่าสุดของสหภาพยุโรปพบว่ากำลังซื้อต่อหัวในสเปนอยู่ที่ 16.449 ยูโรในปีนี้ ซึ่งมากกว่าปี 2022 ถึง 1.135 ยูโรต่อคน ครองอันดับที่ 17 อีกครั้งในการจัดอันดับจาก 42 ประเทศในยุโรป แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปอยู่ที่ร้อยละ 7 โดยกำลังซื้อเฉลี่ยของประเทศในยุโรปอยู่ที่ 17.688 ยูโรต่อหัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8
ข้อคิดเห็นของ สคต.
สถานการณ์ทางการเมืองของสเปนมีผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกำลังการซื้อ โดยปัจจุบันจะเห็นว่าผู้บริโภคชาวสเปนจำนวนมากมีความกังวลต่อเศรษฐกิจและทิศทางของประเทศในอนาคต จึงชะลอการจับจ่ายใช้สอยสินค้าฟุ่มเฟือย หันมาอดออมและเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
สคต. คาดว่าหากนายเปโดร ซานเชซ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามแผนการปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวสเปนจะเพิ่มความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้นและจะเกิดภาวะตึงเครียดในตลาดอันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจสเปนในระยะยาว ซึ่งสคต. จะจับตาสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากแรงซื้อของกลุ่มผู้บริโภคสเปนแล้ว สคต.เห็นว่าโอกาสของสินค้าและบริการไทยยังคงมีอยู่ โดยผู้ประกอบการไทยจะต้องสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการของตน จับเทรนด์สำคัญของตลาดโลก อาทิ เทรนด์สิ่งแวดล้อม เทรนด์รักสุขภาพ เทรนด์วีแกน เป็นต้น
ที่มา : El Pais, Aral Magazine
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมาดริด
12 พฤศจิกายน 2566
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)