จากข้อมูลของบริษัท Pitney Bowes ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องติดฉลากให้แก่ไปรษณีย์ของเยอรมนี ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันยอดการส่งพัสดุทางไปรษณีย์ลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำการขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์กว่า 4.2 พันล้านกล่อง หรือลดลง 6.9 ล้านกล่องเมื่อเทียบกับปริมาณที่จัดส่งในปีก่อนหน้า เรื่องนี้อาจจะยังไม่สามารถพิจารณาปัญหาได้ชัดเจนได้ เพราะในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 มีการส่งพัสดุ/สินค้าทางไปรษณีย์โตขึ้นถึงเลข 2 หลัก โดยในปี 2021 คนเยอรมันจะรับกล่องพัสดุโดยเฉลี่ยประมาณ 54 กล่อง แต่ในปี 2022 คนเยอรมันสั่งสินค้าหรือได้รับกล่องพัสดุทางไปรษณีย์ลดลงเหลือประมาณ 50 กล่องเท่านั้น (ตัวเลขนี้ยังไม่รวมการขนส่งโดยตรงจากทางร้านค้าออนไลน์ อาทิ Amazon) ในขณะที่ ผู้นำด้านการขนส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์อย่าง DHL ก็เสียส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างมาก โดยในปี 2022 DHL ส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ลดลง 9% หรือมากกว่าจำนวนที่ Amazon ส่งเอง ด้านนาง Melanie Kreis ผู้บริหารด้านการเงินของ DHL เปิดเผยว่า “หลังจากที่ตลาดเติบโตอย่างมากในช่วงโควิด – 19 ตอนนี้ตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงปกติแล้วจึงทำให้ยอดการส่งหรือสั่งสินค้าลดลง” ทั้งนี้ บริษัท Pitney Bowes ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัท Hermes ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Otto ได้รับผลกระทบหนักกว่า DHL เพราะจำนวนการส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ในเยอรมนีลดลงถึง 13% อย่างไรก็ตาม คู่แข่งขนาดเล็กอย่าง GLS, UPS และ DPD สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดได้เล็กน้อย
บริษัท Pitney Bowes ได้ออกมาเปิดเผยอีกว่า ผลประกอบการของบริษัทผู้จัดส่งสินค้าต่าง ๆ กอดคอพากันลดลง ยกตัวอย่างเช่น DHL (ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดที่ 12.9% หรือมีมูลค่าที่ 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ลดลง 15% , DPD ลดลง 13% (แต่ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้) และของ Fedex/TNT และ GLS ลดลงบริษัทละ 7% (โดยประมาณ) สำหรับ บริษัทที่ได้รับผลกระทบด้านผลประกอบการมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นบริษัท Hermes ที่ประกอบธุรกิจส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ให้แก่กลุ่มลูกค้าครัวเรือนเป็นหลัก และเมื่อคำนวณจำนวนเงินผลประกอบการที่ลดลงแล้วพบว่า ผลประกอบการของ Hermes ลดลง 20% ด้านโฆษกของสมาพันธ์ธุรกิจ E-Commerce และการค้าผ่านระบบการขนส่งทางไปรษณีย์เยอรมนี (BEVH -Der Bundesverband E-Commerce und Versandhandel Deutschland e.V) เปิดเผยว่า “มีแนวโน้มที่ทิศทางของธุรกิจการส่งพัสดุไปรษณีย์จะลดลงไปอีก” โดยยอดขายในธุรกิจ Online ระหว่างเมษายน – มิถุนายนของปีนี้ เทียบกับช่วงเวลาในปีก่อนหน้า ลดลง 12.2% หรืออยู่ที่ 19.17 พันล้านยูโร (ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ตัวเลขที่นำค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมาหักลบลง) โดย BEVH คำนวณว่ายอดจำหน่ายช่วงครึ่งปีแรก 2023 พบว่า ลดลง 13.7% เมื่อเทียบกับปี 2022 หากเทียบกับปี 2019 (หรือช่วงก่อนการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19) ยอดจำหน่ายก็เพิ่มขึ้น 14.7% ล่าสุด BEVH ได้คาดการณ์ ยอดจำหน่ายของธุรกิจ Online ปี 2023 จะขยายตัวขึ้น 4.8% ในขณะที่นาย Martin Groß-Albenhausen ผู้บริหาร BEVH กล่าวว่า “ตอนนี้เราคาดการณ์ว่า เป็นไปได้ที่ยอดจำหน่ายจะลดลง 5% โดยประมาณ”
จากตัวเลขข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจ E-Commerce ในเยอรมนีตีกำลังอยู่ในช่วงขาลง โดยในปี 2022 ธุรกิจการส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ทั่วโลกขยายตัวขึ้น แม้ว่าจะไม่สูงเท่ากับปีก่อนหน้านั้น แต่ก็ยังสามารถขยายตัวได้ถึง 1% หรืออยู่ที่ 161 พันล้านกล่อง อย่างไรก็ดี เยอรมนีคงไม่ใช่ประเทศเดียวที่กำลังประสบปัญหายอดการส่งของทางไปรษณีย์ลดลง เพราะจริงๆ แล้วเพื่อพิจารณาในสหรัฐอเมริกา ก็พบว่า ในปี 2022 ลดลง 2% เช่นกัน จะมีเพียงก็ที่อินเดียเท่านั้นที่ยอดการส่งพัสดุไปรษณีย์ยังสามารถขยายตัวได้ถึง 18% ซึ่ง DHL ได้รับผลประโยชน์ในตลาดอินเดีย ตั้งแต่ปี 2006 บริษัท DHL ก็เข้าไปถือหุ้นถึง 75% ในบริษัท Blue Dart ผลประกอบการปี 2022 อยู่ที่ 62 พันล้านยูโร หรือขยายตัวขึ้นเท่าตัว
จาก Handelsblatt 28 สิงหาคม 2566
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน (Thanit Hirungitrungsri)
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
