- จากข้อมูลของสภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา หรือ CDC ระบุว่า ในเดือนสิงหาคม 2566 CDC ได้อนุมัติโครงการการลงทุน 23 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน รวม 485.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสร้างงานให้คนในประเทศ 35,050 ตำแหน่ง
- โครงการการลงทุน 8 โครงการ อยู่ในจังหวัดกำปงสปือ 6 โครงการ อยู่ในพนมเปญ 3 โครงการ อยู่ในจังหวัดกันดาล และตาแก้ว และ 6 โครงการที่เหลืออยู่ในจังหวัดโพธิ์สัต กำปงฉนัง และกำปงจาม โดย โครงการการลงทุน 23 โครงการ ประกอบด้วย โครงการการผลิตกระเป๋า สายไฟ หลอดไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และการแปรรูปอาหาร
- นาย Hong Vanak นักวิจัยเศรษฐกิจแห่งราชบัณฑิตยสถานประจำกัมพูชา เปิดเผยว่า การอนุมัติของ CDC สำหรับโครงการหลากหลายประเภทในเดือนสิงหาคมนี้ ตอกย้ำว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง ในขณะที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือกันเพื่อดึงดูดการลงทุน รวมทั้งดึงดูดจากปัจจัยภายในหมายถึง การก่อสร้างและการดำเนินการตามระบบกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน การพัฒนาระบบขนส่ง ระบบชลประทาน และการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคล เป็นต้น และปัจจัยภายนอก คือ การหาตลาดต่างประเทศมากขึ้น การมีผลใช้บังคับของข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีและพหุภาคี และอัตราภาษีพิเศษสำหรับการนำเข้าอีกด้วย
- ทั้งนี้ คาดว่า กัมพูชาจะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศเข้ามาลงทุนโดยตรงได้มากขึ้นในอนาคต แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันยังไม่มีความไม่แน่นอน และจะทำให้จำนวนโรงงาน/สถานประกอบการในกัมพูชาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
- ด้าน นาย Te Taingpor ประธานสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกัมพูชา เปิดเผยว่า หากกัมพูชาสามารถทำให้ราคาไฟฟ้าถูกลงได้ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันและไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญในภาคการผลิต นอกจากต้นทุนวัตถุดิบและแรงงาน และเมื่อราคาน้ำมันรวมทั้งค่าไฟฟ้าทรงตัวดีและต่ำ นักลงทุนต่างชาติจะมองเห็นโอกาสจากปัจจัยดังกล่าวอย่างแน่นอน
- ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 CDC ได้อนุมัติโครงการใหม่และโครงการขยายการผลิต 113 โครงการ ด้วยเงินลงทุนรวม 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานได้ 122,000 ตำแหน่ง โดยโครงการลงทุน 113 โครงการ แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม 102 โครงการ เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร 7 โครงการ การท่องเที่ยว 3 โครงการ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 1 โครงการ
ความเห็นของสำนักงานฯ
- จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ยังไม่แน่นอน ทำให้กัมพูชาได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศลดลงในช่วง 7 เดือนแรก 2566 อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพด้านการเมืองของกัมพูชาและการได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีนำเข้า เช่น GSP กับสหราชอาณาจักร EBA กับสหภาพยุโรป FTA กับจีนและเกาหลีใต้ และ RCEP ทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาภายในประเทศแข็งแกร่ง และยังมีศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุน ทั้งนี้ กัมพูชายังเป็นประเทศที่มีแหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ มีแรงงานจำนวนมาก มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ดี รวมทั้งมีกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ที่ให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนมากมาย พร้อมกับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งทำให้นักลงทุนต่างชาติยังเลือกกัมพูชาเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะนักลงทุนจีนยังติดอันดับ 1 มาตลอด
- ไทยเป็นประเทศที่มีชายแดนติดกับกัมพูชาและมีวัฒนธรรมประเพณีที่คล้ายๆ กัน แต่มีทักษะ แรงงาน และเทคโนโลยีการผลิตสินค้าที่ทันสมัยมากกว่า ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถพิจารณานำเทคโนโลยีในด้านการลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิต หรืออุตสาหกรรมการเกษตร เข้ามาลงทุนในกัมพูชาเพื่อได้รับผลประโยชน์ต่างๆ ตามข้อ 1 ข้างต้นได้
—————————
Phnom Penh Post
กันยายน 2566
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ, กัมพูชา
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)