หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > สงครามอิสราเอล-ฮามาส ยังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจการค้าแคนาดา

สงครามอิสราเอล-ฮามาส ยังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจการค้าแคนาดา

ในเวลานี้ทั่วโลกกำลังเฝ้าติดตามสงครามอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างใกล้ชิด ซึ่งได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงมานานกว่า 10 วัน จนสร้างความเดือดร้อนและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอยู่ไม่น้อย ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลายฝ่ายที่กำลังเป็นห่วงผลกระทบต่อเศรษฐกิจตนเองและโลกว่า สงครามครั้งนี้จะซ้ำเติมกับปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาจากรัสเซียและยูเครนที่ได้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของหลายชาติมากน้อยเพียงใด

 

สำหรับในภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าของแคนาดา นายทิม แม็คเคล็ม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศแคนาดา ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าเหตุรุนแรงระหว่างอิสราเอลและฮามาสจะมากระทบเศรษฐกิจแคนาดาขนาดไหน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความยืดเยื้อของการสู้รบนานเพียงใด และการเข้ามีส่วนร่วมจากชาติอื่นว่าจะขยายวงกว้างของความขัดแย้งขนาดไหน อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ทางธนาคารฯ กำลังเฝ้าดูในขณะนี้ คือ ผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมผ่านทางราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์โลกมากกว่าผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศโดยตรง เพราะเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดา และอิสราเอลเองก็ไม่ใช่คู่ค้าลำดับต้นๆ ของแคนาดา

 

จากข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศ แสดงมูลค่าการค้ารวมแคนาดาและอิสราเอลใน 8 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 927,386,504 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอิสราเอลเป็นคู่ค้าลำดับที่ 50 ของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.12 ของการค้ารวมทั้งหมด โดยแคนาดาส่งออกไปอิสราเอลเป็นลำดับ 50 มีมูลค่า 192,459,004 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 0.05 และนำเข้าจากอิสราเอลเป็นลำดับที่ 40 มีมูลค่า 734,927,499 ดอลลาร์สหรัฐฯ  ด้วยสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 0.22 เท่านั้น

 

อย่างไรก็ดี การสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาสที่ยังไม่ยุติ ย่อมส่งผลกระทบต่อนักลงทุนซึ่งมีความวิตกกังวลว่า หากสงครามยืดเยื้อต่อไปอาจมีผลต่อการผลิตน้ำมันของประเทศกลุ่มตะวันออกกลางได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการที่อิหร่านเข้าร่วมในความขัดแย้ง เนื่องจากเป็นสัญญาณที่จะสามารถบ่งบอกถึงการหยุดชะงักของอุปทาน และมีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุนราคาน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากอิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับห้าของโลก

 

ซึ่งนอกจากประเด็นเรื่องน้ำมันแล้ว ผู้ว่าการธนาคารฯ ยังกล่าวถึงประเด็นเศรษฐกิจในแคนาดาที่ต้องกังวลเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อในระดับสูง และความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ซึ่งหมายถึงว่า อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคชาวแคนาดาเพิ่มขึ้นไปอีก

 

ข้อคิดเห็นจากสำนักงานฯ  จากศึกในตะวันออกกลางครั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ในแคนาดายังไม่มีท่าทีแสดงความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของแคนาดามากนัก เมื่อเทียบกับความรุนแรงเหตุขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนก่อนหน้า เพราะเห็นผลกระทบทางการค้าอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของราคาพลังงานและราคาอาหารที่สูงขึ้น เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงของโลก อย่างไรก็ดี การสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาสนี้จะเอนเอียงความกังวลไปในทิศทางของการชุมนุมประท้วงด้านความชอบธรรม และความตกลงสันติภาพมากกว่าประเด็นทางการค้า ซึ่งหลายฝ่ายหวังจะไม่มีการเกิดเหตุบานปลายขึ้นในแต่ละพื้นที่ของแคนาดาและโลก อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการทางการค้าย่อมไม่ควรนิ่งเฉย แต่ควรติดตามสถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจการค้าที่เกี่ยวข้องทุกวัน และวิเคราะห์ผลกระทบ รวมถึงแนวทางแก้ไขให้ทันต่อเหตุการณ์ได้


 

ที่มาของบทความ https://financialpost.com/news/retail-marketing/trudeau-major-grocers-plan-stabilize-food-prices

โดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login