หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > เวียดนามและญี่ปุ่นยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม

เวียดนามและญี่ปุ่นยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เนื่องในโอกาสการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ นาย Vo Van Thuong ประธานาธิบดีเวียดนาม ได้พบหารือกับนาย Kishida Fumio นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม

ประธานาธิบดีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแสดงความพึงพอใจต่อการพัฒนาที่เข้มแข็ง ครอบคลุม และเป็นรูปธรรมในทุกด้านของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเวียดนามกล่าวว่าความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและจริงใจ พร้อมด้วยศักยภาพและโอกาสที่เปิดกว้างอย่างยิ่ง

จากพื้นฐานดังกล่าว ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียและทั่วโลก

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเพิ่มการแลกเปลี่ยนและการติดต่อระดับสูงในรูปแบบที่ยืดหยุ่น ดำเนินการใช้กลไกการเจรจา       ความร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างกระทรวงและหน่วยงานของทั้งสองประเทศอย่างมีประสิทธิผล และส่งเสริมการจัดตั้งกลไกความร่วมมือใหม่ เสริมสร้างความร่วมมือในทางปฏิบัติและมีประสิทธิภาพในด้านกลาโหมตามแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านกลาโหมเวียดนาม – ญี่ปุ่น

ในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น นวัตกรรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงสีเขียว

นาย Kishida Fumio นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยืนยันว่า จะสนับสนุนเวียดนามต่อไปในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม ​​การสร้างเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่ง และการเข้าร่วมกับเศรษฐกิจโลกอย่างลึกซึ้ง โดยมีเป้าหมายที่จะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2588

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเน้นย้ำว่า ผู้ประกอบการญี่ปุ่นถือว่าเวียดนามเป็นฐานการผลิตสำคัญเพื่อรับรองห่วงโซ่อุปทานและเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่มีศักยภาพมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เสนอให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และขจัดอุปสรรคเพื่อเร่งดำเนินโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (Official Development Assistance : ODA) และโครงการลงทุนของญี่ปุ่นในเวียดนาม

ประธานาธิบดีเวียดนามชื่นชมการมีส่วนร่วมของเงินทุน ODA ของญี่ปุ่นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม และ เสนอให้ญี่ปุ่นพิจารณาสนับสนุนเงินทุน ODA รุ่นใหม่แก่เวียดนาม โดยมุ่งเน้นไปที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในเวียดนาม ส่งเสริมผู้ประกอบการญี่ปุ่นถ่ายทอดเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่างๆ เสริมสร้างความร่วมมือทางการเกษตรคุณภาพสูง สร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยให้ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและผลไม้ของเวียดนามเข้าตลาดญี่ปุ่น โดยเปิดตลาดสำหรับส้มโอและเสาวรสของเวียดนามในเร็วๆ นี้

ประธานาธิบดีเวียดนามเสนอให้ญี่ปุ่นพิจารณาจัด “เวทีความร่วมมือระดับท้องถิ่น” ประจำปีสลับกันในจังหวัดของทั้งสองประเทศ และสนับสนุนเวียดนามในการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์คุณภาพสูง ลดขั้นตอนในการเข้าประเทศ และออกวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์และวีซ่าเข้าออกหลายครั้งสำหรับชาวเวียดนามที่เข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว และมุ่งสู่การยกเว้นวีซ่าสำหรับพลเมืองเวียดนามในอนาคต

ในบริบทของสถานการณ์ในภูมิภาคและโลกที่ซับซ้อน ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน โดยมีส่วนร่วมในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาคและโลก รวมทั้งสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีพหุภาคี องค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค เช่น สหประชาชาติ APEC และอาเซียน เป็นต้น

 (จาก https://thanhnien.vn/)

ข้อคิดเห็น สคต

ญี่ปุ่นเป็นแหล่งการลงทุนจากต่างประเทศรายใหญ่อันดับ 3 และเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของเวียดนาม โดยการค้า     ทวิภาคีในปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่า 36,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น 17,700ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่นหลายราย เช่น Canon, Honda, Panasonic, Mitsubishi Electric, Honda, Toyota, Toto และ Bridgestone เป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอีก 5 ประเทศที่เวียดนามมีความสัมพันธ์ในระดับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม คือจีน อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ การที่เวียดนามและญี่ปุ่นยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมจะช่วยกระชับความร่วมมือทุกด้าน เช่น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา การฝึกอบรม และวัฒนธรรม รวมทั้งความร่วมมือด้านใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับผลประโยชน์และข้อกังวลของทั้งสองประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขยายห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะช่วยให้เวียดนามมีบทบาทเพิ่มขึ้นในฐานะจุดเชื่อมโยงสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก รวมทั้งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของเวียดนามแข็งแกร่งมากขึ้น

อ่านข่าวฉบับเต็ม : เวียดนามและญี่ปุ่นยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม

Login